ผลไม้ไทยที่ให้รสชาติหวานกรอบ ฉ่ำน้ำ ดับอาการกระหายน้ำ หรือ แก้ร้อนในได้ ที่คนไทยเรานึกถึง คือ ชมพู่ ซึ่งถือเป็นผลไม้ไทยอีกหนึ่งชนิดในบ้านเราที่เกษตรกรนิยมปลูกไว้เพื่อบริโภคและนำไปชายเชิงพาณิชย์ โดยแต่เดิมนั้นมีการปลูกชมพู่เพื่อค้าขายในตลาดเกษตรไม่มากนัก จึงไม่ค่อยมีการดัดแปลงพันธุ์ของชมพู่กันมากเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบัน ภาคการเกษตรได้มีการปลูกชมพู่เชิงการค้ากันมากยิ่งขึ้น ทำให้เกษตรกรต้องคัดเลือกดัดแปลงพันธุ์ชมพู่ เพื่อหาพันธุ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดและทำราคาในตลาดได้สูง เพื่อสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นได้ จึงมีการคิดค้น “ชมพู่ทับทิมจันทร์” ขึ้น โดยเริ่มแรกปลูกกันในจังหวัดราชบุรีจนในปัจจุบันถือเป็นชมพู่พันธุ์ที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรถึง 7 หลักต่อปีเลยทีเดียว
การปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะชมพู่ทับทิมจันทร์สามารถ ปลูกได้ในดินทุกสภาพไม่ว่าจะเป็นดินร่วนปนทรายดินทรายหรือแม้แต่ดินเหนียว แต่จะต้องเป็นดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ สารอาหาร เพื่อให้ต้นชมพู่สามารถดูดซึมและเจริญเติบโตได้ดี การปลูกสามารถปลูกได้ทั้งแบบยกร่อง หรือ ปลูกเป็นแถวปกติเหมือนกับพืชไร่ชนิดอื่น โดยจะปลูกด้วยการซื้อกิ่งพันธุ์มาเพาะในแปลง
เริ่มจากการตากดินไว้เพื่อกำจัดวัชพืชก่อนปลูก และควรสังเกตค่า pH ของดิน เพื่อที่จะได้คำนึงว่าจะต้องใส่ปุ๋ยชนิดใดเพื่อปรับสมดุลให้ดินมีคุณภาพและเหมาะที่จะปลูกชมพู่พันธุ์นี้มากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ทำการปลูกโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นให้เหมาะสม และหมั่นดูแลกำจัดวัชพืชและเติมปุ๋ยเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินอย่างสม่ำเสมอ รอเวลาประมาณ 2 ปี ต้นชมพู่ก็จะเริ่มออกดอก เมื่อดอกเริ่มออกได้ 5-7 วัน ให้ใช้ถุงพลาสติกใสคลุมดอกของชมพู่ไว้เพื่อป้องกันแมลงต่างๆ มารบกวนและเพื่อทำให้ผิวของชมพู่ทับทิมจันทร์สวยอีกด้วย โดยเลือกดอกที่สวยงามไว้เพียงต้นละ 150 ดอกเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลผลิต 150 ผลต่อต้น หลังจากนี้ก็หมั่นรดน้ำใส่ปุ๋ย รอเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลย
ถ้าหากเกษตรกรคนใดอยากปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์ให้ได้รายได้งามนั้น ต้องขอแนะนำให้ปลูกภายใต้มาตรฐาน GPA ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รับรองคุณภาพผลผลิตของชมพู่ทับทิมจันทร์ ว่ามีคุณภาพดี ทำให้สามารถสร้างราคากับผลผลิตได้ในราคาที่สูง เพราะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่นิยมบริโภคผลไม้คุณภาพดี ทั้งยังอาจจะส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย
การปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ GPA ก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตตามมาตรฐานของ GPA ที่รับรอง โดยเราสามารถที่จะใช้สารเคมีในการปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์ได้แต่ต้องใช้ภายใต้ปริมาณที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน GPA เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค