“กะเพรา” เป็นไม้ล้มลุก มีความสูง ประมาณ 30-60 เซนติเมตร โคนต้นออกแข็ง กะเพราแดง จะมีลำต้นสีแดงอมเขียว กะเพราขาว จะมีลำต้นสีเขียวอมขาว และยอดอ่อนมีขนสีขาว มีใบ เป็นใบเดี่ยวสีเขียวรูปรีออกตรงข้ามกัน ปลายใบมน หรือแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเป็นจักฟันเลื่อย และเป็นคลื่น แผ่นใบ มีขนสีขาว ส่วนดอกกะเพรา จะออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกสีขาวแกมม่วงแดง ผลเป็นผลแห้ง ขนาดเล็ก เมื่อแตกออก จะมีเมล็ดสีดำถึงน้ำตาลคล้ายรูปไข่

การปลูก “กะเพรา“
การปลูกกะเพราทำได้ทั้งแบบ วิธีเพาะเมล็ด และวิธีปักชำกิ่ง แต่วิธีเพาะเมล็ดจะโตช้ากว่า จึงแนะนำให้ใช้วิธีปักชำกิ่ง สามารถทำได้ ดังนี้
- การเลือกกิ่งพันธุ์ ให้เลือกกิ่งกลางแก่กลางอ่อน ที่ยังไม่เคยออกดอก ตัดกิ่งยาวประมาณ 4-5 นิ้วมาปักชำในกระถาง โดยปักเอียง 45 องศา รดน้ำให้ชุ่ม เพียงไม่กี่วัน กะเพราก็แตกรากแตกใบ และมีต้นโตเร็วกว่าวิธีเพาะเมล็ดด้วย
- นำไปปลูกในกระถางต่อ หรือนำไปปลูกลงดินก็ได้ ข้อแตกต่าง คือ ถ้าย้ายมาปลูกลงดิน จะได้กะเพราที่ต้นสูงใหญ่กว่า วิธีปลูกลงดิน ถ้ามีพื้นที่เหลือพอ ก็ปลูกหลายต้นได้เลย โดยปลูกให้ต้นห่างกัน 20-30 เซนติเมตร
- การเก็บกะเพรา มีเทคนิค คือ อย่าใช้วิธีเด็ดใบ แต่ให้ตัดมาทั้งยอดจะดีกว่า เพราะเมื่อตัดยอดมาแล้ว กะเพราจะแตกยอดใหม่ และใบหนากว่าเดิม หรือถ้าหากไม่ได้เก็บยอดกะเพรามาทำอาหารบ่อย ควรหมั่นดูแลตัดยอดทิ้งทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะยอดไหนออกดอก ต้องตัดทิ้งให้หมดทันที
- การดูแล รดน้ำ รดน้ำให้พอ ใส่ปุ๋ยบ้าง และคอยตัดยอดตัดดอกทิ้ง อย่าปล่อยให้กะเพราออกดอกเด็ดขาด เพราะจะทำให้ต้นกะเพราโทรมง่าย และหมดอายุเร็ว

สรรพคุณของ”กะเพรา”
1. ใช้ทำเป็นยาอายุวัฒนะ (the elixir of life)
2. ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกันอาการหวัดได้ (ใบ)
3. กะเพราเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพรหลายชนิด เช่น ยารักษาตานขโมยสำหรับเด็ก ยาแก้ทางเด็ก ฯลฯ
4. รากแห้งนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยแก้โรคธาตุพิการ (ราก)
5. ช่วยบำรุงธาตุไฟ (ใบ)
6. ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน (ใบ)
7. ช่วยแก้อาการปวดด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาคั้นรับประทานสด 1 ถ้วยตะไล จะช่วยแก้อาการปวดมวนท้องได้เป็นอย่างดี (ใบ)
8. ช่วยขับลมแก้อาการปวดท้องอุจจาระ (ใบ)
9. ใบกะเพรามีสรรพคุณช่วยขับลมในกระเพาะ (ใบ)
10. ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง (ใบ)
11. ช่วยแก้ลมซานตาง (ใบ)
12. น้ำสกัดจากทั้งต้นของกะเพรามีฤทธิ์ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
13. ช่วยย่อยไขมัน (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
14. ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
15. กะเพรามีสรรพคุณช่วยขับน้ำดี (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
16. ช่วยแก้ลมพิษ ด้วยการใช้ใบกะเพราประมาณ 1 กำมือนำมาตำผสมเหล้าขาวแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นลมพิษ (ใบ)
17. ใช้ทำเป็นยารักษากลากเกลื้อน ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบนำมาขยี้ให้น้ำออกมา แล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหาย (ใบ)
18. ใช้เป็นยารักษาหูด ด้วยการใช้ใบกะเพราแดงสดนำมาขยี้แล้วทาบริเวณที่เป็นหูดเช้า-เย็น จนกว่าหัวหูดจะหลุดออกมา โดยระวังอย่าให้เข้าตาและถูกบริเวณผิวที่ไม่ได้เป็นหูด เพราะจะทำให้เนื้อดีเน่าเปื่อยและรักษาได้ยาก (ใบสด)
19. ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาตำผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาทาบริเวณที่ถูกกัด ห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดเพราะจะมีสารยูจีนอล (Eugenol) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและอาจถึงขั้นโคม่าได้ (ใบ)
20. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้ (น้ำมันใบกะเพรา)
21. มีงานวิจัยพบว่ากะเพราสามารช่วยยับยั้งสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษที่มักพบเจือปนในอาหารซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งได้ (สารสกัดจากกะเพรา)
22. ใบกะเพรามีฤทธิ์ในการช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ โดยมีการใช้ใบกะเพราในกระต่ายทดลอง โดยให้กระต่ายกินใบกะเพราติดต่อ 4 สัปดาห์พบว่าระดับไขมันโดยรวมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันเลว (LDL) ลดลง แต่ไขมันชนิดดี (HDL) กลับเพิ่มขึ้น
23. ช่วยเพิ่มน้ำนมให้สตรีหลังคลอดบุตร ด้วยการใช้ใบกะเพราสดประมาณ 1 กำมือ นำมาใส่แกงเลียงรับประทานบ่อย ๆ ในช่วงหลังคลอด (ใบ)
24. นำเมล็ดไปแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือกขาว นำมาใช้พอกบริเวณตา เมื่อมีฝุ่นละอองหรือเศษผงเข้าตา ผงหรือฝุ่นละอองก็จะหลุดออกมา โดยไม่ทำให้ตาของเรานั้นช้ำอีกด้วย (เมล็ด)
25. ใบและกิ่งสดของกะเพรามีการนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยด้วยการต้มกลั่นจนได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 08 – 0.1 โดยมีราคาประมาณกิโลกรัมละหนึ่งหมื่นบาท
26. ใช้ไล่ยุงหรือฆ่ายุง ด้วยการใช้ทั้งใบสดและกิ่งสด เอาใบมาขยี้แล้ววางใกล้ตัว ๆ จะช่วยไล่ยุงและแมลงได้ โดยน้ำมันกะเพราที่สกัดมาจากใบจะมีคุณสมบัติช่วยไล่ยุงได้ดีกว่าต้นสด(ใบสด, กิ่งสด)
27. น้ำมันสกัดจากใบสด ช่วยล่อแมลง ทำให้แมลงวันทองบินมาตอมน้ำมันนี้ (น้ำมันสกัดจากใบสด)
28. ใช้ในการประกอบอาหารและช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ในเมนูกะเพราสุดโปรด เช่น ผัดกะเพรา แกงเลียง แกงป่า แกงคั่ว แกงเขียวหวาน แกงส้มมะเขือขื่น ผัดกบ ผัดหมู ผัดปลาไหล พล่าปลาดุก พล่ากุ้ง หรือจะนำใบกะเพรามาทอดแล้วใช้โรยหน้าอาหารเมนูต่างๆ ก็ได้ ฯลฯ
29. ใบกะเพราสามารถช่วยดับกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้ (ใบ)




