
กรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน ได้พัฒนาอ้อยพันธุ์ใหม่ “กวก. นครสวรรค์ 2” (NSUT13-313) เพื่อตอบโจทย์เกษตรกรและอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยที่ต้องการพันธุ์อ้อยให้ผลผลิตสูง เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น อ้อยพันธุ์นี้เกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์ Q85 และ กวก.อู่ทอง 8 ผ่านการคัดเลือกและทดสอบในศูนย์วิจัยและแปลงเกษตรกรกว่า 23 แปลง ระหว่างปี 2556–2567

จุดเด่นสำคัญ
ผลผลิตสูง: ให้ผลผลิตเฉลี่ย 18.0 ตัน/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ กวก.ขอนแก่น 3 ถึง 14% และ LK92-11 ถึง 26%
ผลผลิตน้ำตาลมากกว่า: ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.51 ตันซีซีเอส/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ กวก.ขอนแก่น 3 ถึง 13% และ LK92-11 ถึง 27%
ความหวานดี: ความหวานเฉลี่ย 14.1 ซีซีเอส เทียบเท่าพันธุ์ชั้นนำอย่างพันธุ์ กวก. ขอนแก่น 3
โครงสร้างต้นแข็งแรง: ลำใหญ่ ทรงกอตั้งตรง เหมาะกับการเก็บเกี่ยวทั้งเครื่องจักรและแรงงาน

ได้รับการตอบรับดีจากเกษตรกร: กว่า 80% ของเกษตรกรที่เข้าร่วมประเมินให้คะแนน “ชอบมาก–ชอบมากที่สุด”
พื้นที่แนะนำ
เหมาะกับพื้นที่ดินร่วนถึงดินเหนียว โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ

ข้อควรระวัง
อ่อนแอต่อโรคแส้ดำ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ปลูกที่มีการระบาดและควรมีการป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
อ้อยพันธุ์ “กวก. นครสวรรค์ 2” ถือเป็นทางเลือกใหม่ด้านพันธุ์ของเกษตรกรไทยเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงจากพันธุ์เชิงเดี่ยว และสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมน้ำตาลของประเทศ








