
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง กรณี การแพร่ระบาดของ โรคแอนแทรกซ์ ในกลุ่มโค และพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 1 ราย มีประวัติชำแหละและรับประทานเนื้อโคดิบนั้นว่า เบื้องต้นตนได้กำชับกับทางกรมปศุสัตว์ว่า ทางหน่วยงานจะต้องลงพื้นที่เข้าไปตรวจอย่างเข้มงวด ล่าสุดได้มีการปิดพื้นที่ ที่ต้องสงสัยว่ามีการระบาดไม่ให้โคกระบือไปกินหญ้าร่วมกันในพื้นที่ใหญ่ ห้ามคนเข้าออก และ มีการเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มโค กระบือในพื้นที่นั้นเช่นกัน รวมถึงสั่งไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดของโรคแอนแทรก

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าทางกรมปศุสัตว์สามารถควบคุมเอาอยู่ได้ และทางกระทรวงเกษตรกรฯ ไม่กังวลเรื่องของผลกระทบต่างๆที่อาจจะตามมา เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ตั้งแต่ระดับอำเภอ และ จังหวัด ทุกหน่วยงานเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการสั่งการทางกรมปศุสัตว์ไปแล้วว่าเคสโรคระบาดนี้ที่เกิดขึ้นต้องเอาอยู่และที่สำคัญต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ค้าของไทยว่า โรคแอนแทรกซ์ ไม่สามารถกระทบต่อผู้เลี้ยงโคของประเทศไทยได้

อย่างไรก็ตามยืนยันว่ายังไม่มีการรายงานว่ามีโค กระบือไทย เสียชีวิตเพิ่ม และ ไม่มีที่ติดเชื้อป่วยเพิ่มเช่นกัน และทางหน่วยงานได้มีการปิดพื้นที่ไว้ระยะทาง 5 กิโลเมตร รวมถึงฉีดวัคซีนให้โค กระบือในบริเวณนั้นทุกตัว ซึ่งถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น หรือ พบโค กระบือไทยติดเชื้อเพิ่มอีก ตนจะลงพื้นที่ไปเอง
“ตอนนี้เท่าที่ได้รับรายงานยังควบคุมได้ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าวิตก ถ้าสถานการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้ผมจะลงไปดูเอง ให้มั่นใจว่าทางกรมปศุสัตว์กระทรวงเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจเรารีบดำเนินการ เข้าไปตรวจสอบแล้วทันทีมีพบว่ามีผู้ติดเชื้อและตอนนีีก็ยังพบผู้เสียชีวิตเพียง1ราย และรักษาตัวอยู่อีก1ราย ไม่มีการตายเพิ่มส่วน ส่วนที่มาของโรคอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ที่เสียชีวิตติดเชื้อมาจากที่ใด เนื่องจากใน พื้นที่ไม่มีรายงานว่ามีโคที่เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว นายอิทธิ กล่าว
นายอิทธิ บอกด้วยว่า ล่าสุดได้สั่งการให้มีการปิดกั้นพื้นที่ตามแนวชายแดนทั้งหมด โดยให้มีการตรวจโรคสัตว์อย่างละเอียด พร้อม ทั้งตรวจสอบ กักกันสัตว์ตามสนามบินและท่าเรือทุกด่านเพื่อป้องกัน โรคแอนแทรกซ์ที่จะหลุดรอดเข้ามาด้วยกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ และ กรมปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างละเอียด และติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง รวมถึงขณะนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี ที่สามารถทำให้ผู้เลี้ยงสัตว์เข้าถึงการตรวจสุขภาพสัตว์กับผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น และ เป็นการช่วยเลี่ยงการระบาดของโรค
ด้าน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ทางกรมปศุสัตว์ ได้มีการประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อตรวจสอบร่วมกัน โดยพบว่า ข้อมูลเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตเพียง 1 ราย และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพียง 1 ราย เท่านั้น ในขณะพื้นที่โดยรอบที่พบผู้ป่วยก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่สอบสวนโรคและเก็บหลักฐานเพื่อนำไป ตรวจสอบคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน นอกจากนี้สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปจัดวัคซีนวัว 1,200 ตัวในพื้นที่เพื่อป้องกันใน รวมทั้งสั่งห้ามมีการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่เด็ดขาด