อนุชา ย้ำ โครงการ “โคล้านครอบครัว” สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชนและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ “โคล้านครอบครัว” ว่า ได้รับความสนใจจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จากข้อมูลเบื้องต้นมีกองทุนหมู่บ้านฯ หลายพันกองทุนยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการ “โคล้านครอบครัว” โดยกองทุนหมู่บ้านฯ จะต้องยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมสัญญากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 6 เดือน หรือในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงกำหนดก่อน

%E0%B9%82%E0%B8%84 1
อนุชา ย้ำ โครงการ “โคล้านครอบครัว” สร้างอาชีพ สร้างรายได้

“จากการลงพื้นที่สร้างการรับรู้ถึงโครงการ “โคล้านครอบครัว” ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสมาชิกกองทุน ฯ ภาพรวมได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี สมาชิกกองทุน ฯ ให้ความสนใจโครงการ “โคล้านครอบครัว” เป็นจำนวนมาก หวังสร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างอาชีพจากการเลี้ยงโค โดยตนเองได้กำชับให้คณะกรรมการกองทุน ฯ พิจารณาคุณสมบัติสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีใจรัก อดทน มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงโคจริง ๆ เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ เดินหน้าสู่ระยะที่ 2 ขยายกลุ่มผู้เลี้ยงวัวเพิ่มยิ่งขึ้น สานต่ออาชีพให้โอกาสแก่สมาชิกกองทุนฯ มากยิ่งขึ้น”

นายอนุชา เน้นย้ำว่า รัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญกับการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทย ซึ่งได้เน้นพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เกิดการสร้างอาชีพ และการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงพึ่งพาตนเองได้ โดยเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยไปสู่รูปแบบใหม่ให้เท่าทันเทรนด์โลก ตามแนวคิด BCG Economy Model  ซึ่งจะช่วยต่อยอดจุดแข็งของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดย BCG จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด กระจายโอกาส กระจายรายได้ และนำความมั่งคั่งไปสู่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง นำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศรายได้สูง และมีเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนในอนาคต สอดคล้องกับการดำเนินโครงการ “โคล้านครอบครัว” ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ BCG Model ควบคู่ ปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบดั้งเดิมที่ “ผลิตมาก แต่รายได้น้อย” (More for less) ไปสู่เกษตรสมัยใหม่ที่ “ผลิตน้อย แต่สร้างรายได้มาก” (Less for more) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงหรือเป็นสินค้าพรีเมียม ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยวันนี้ นายอนุชา นาคาศัย ได้มอบหมายให้นายธัชชญาณ์ณัช  เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ณ หอประชุมเมืองโพธาราม ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยมี นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวิชิต เครือสุข รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้แทนส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น สมาชิกกองทุนฯ ในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม และสุพรรณบุรี เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มทักษะจากผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ อาทิ การบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองสู่ความสำเร็จเข้มแข็งอย่างยั่งยืน (ประธานเครือข่าย/ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้แทน สทบ.สาขาเขต), โครงการโคล้านครอบครัว โดยพรชัยฟาร์ม และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี, การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยหอการค้าจังหวัดราชบุรี, เสวนากองทุนหมู่บ้านต้นแบบ “ทำแล้ว ทำง่าย ทำได้…ไม่ยาก” โดยกองทุนหมู่บ้านวัดพระศรีอารย์ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี, การดำเนินงานโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย, การจัดสวัสดิการสำหรับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง, กิจกรรม Business Matching และกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกด้วย