“พาณิชย์”โชว์ผลงานจับนำเข้ามันเส้นด้อยคุณภาพ ตั้งแต่ พ.ย.66 ถึงปัจจุบัน รวม 15 ราย

กรมการค้าต่างประเทศเผยตรวจพบผู้นำเข้ามันเส้นด้อยคุณภาพจากประเทศเพื่อนบ้านได้อีก 5 ราย รวมตั้งแต่ พ.ย.66 ถึงปัจจุบัน ลงโทษไปแล้ว 15 ราย ระงับไม่ให้นำเข้าชั่วคราว ยันตรวจเข้มต่อ หากพบด่านไหน ยังเจอ หรือผู้นำเข้าไม่ให้ความร่วมมือ จะเพิ่มความถี่ตรวจมากขึ้น ส่วนในการส่งออก ก็เข้มเช่นเดียวกัน เพื่อให้สินค้าไทยมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด  
         

รณรงค์ 5
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการส่งชุดตรวจลงพื้นที่ตามด่านนำเข้ามันเส้นทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2566 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิต ปี 2566/67 ของไทยกำลังออกสู่ตลาด ว่า ล่าสุดสามารถตรวจพบผู้นำเข้ามันสำปะหลังด้อยคุณภาพจากประเทศเพื่อนบ้านได้อีก 5 ราย ที่บริเวณด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี และด่านบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ รวมผลการดำเนินงานในฤดูกาลผลิตปีนี้ ได้ลงโทษผู้นำเข้ามันเส้นด้อยคุณภาพได้แล้วรวม 15 ราย โดยการระงับไม่ให้นำเข้าเป็นการชั่วคราว
         

“กรมมีนโยบายชัดเจนในการป้องกันมันเส้นด้อยคุณภาพไม่ให้เข้าประเทศ นอกจากจะส่งชุดตรวจลงพื้นที่ต่อเนื่องแล้ว ยังได้ยกระดับมาตรการโดยส่งระดับผู้บริหารกรมและชุดตรวจพิเศษ ซึ่งมีข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ เป็นหัวหน้าชุด ลงพื้นที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดตรวจเพื่อให้เป็นไปอย่างเข้มงวด และเป็นการสื่อสารให้ผู้นำเข้าเล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพสินค้า ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับชุดตรวจของกรมการค้าภายใน ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการลักลอบขนย้ายมันเส้น ตรึงพื้นที่ตามแนวชายแดนตลอดฤดูกาลผลิตมันสำปะหลัง”

นายรณรงค์กล่าวว่า มันสำปะหลัง เป็นสินค้าเกษตรสำคัญ มีเกษตรกรจำนวนกว่า 5 แสนครัวเรือน ที่พี่งพารายได้จากการเพาะปลูกมันสำปะหลัง หากปล่อยให้มันเส้นคุณภาพต่ำเข้ามา ก็จะมีผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังในประเทศ เกษตรกรจำนวนมากจะได้รับความเดือดร้อน การเข้มงวดกวดขันในเรื่องคุณภาพสินค้าจึงเป็นสิ่งที่กรมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากพบว่าด่านใดยังมีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำอยู่ หรือพบว่าผู้นำเข้าไม่ให้ความร่วมมือกับชุดตรวจ ก็จะสั่งการให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบด่านนั้นขึ้นอีก
         

ทั้งนี้ นอกจากเข้มงวดในการสกัดกั้นการนำเข้ามันเส้นด้อยคุณภาพตามแนวชายแดนแล้ว ยังได้สั่งให้เพิ่มความถี่การสุ่มตรวจคุณภาพมันเส้นส่งออกควบคู่ไปด้วย เป็นการควบคุมคุณภาพสินค้าทั้งขาเข้าและขาออก เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ยังช่วยให้การขยายตลาดมันเส้นไปยังประเทศใหม่ ๆ ทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคุณภาพสินค้าเป็นที่ยอมรับ โดยกรมอยู่ระหว่างแสวงหาตลาดมันเส้นในกลุ่มประเทศเป้าหมายใหม่ ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักในปัจจุบัน โดยหากไทยมีประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น ผู้ส่งออกไทยก็จะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของไทย