พาณิชย์ เดินหน้าช่วยทำตลาด “ขมิ้นชัน” เล็งผลักดันเป็น Superfood ตอบโจทย์รักสุขภาพ

“พาณิชย์”ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผลักดัน “ขมิ้นชัน” ให้เป็นที่รับรู้ทั้งในและต่างประเทศ นำผู้จัดจำหน่ายสมุนไพรรายใหญ่ จับมือเกษตรกรร่วมทำธุรกิจ เผยมีแผนผลักดันให้เป็น Superfood ที่ตอบโจทย์กระแสการดูแลสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับ “สาหร่ายขนนกกระบี่” เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ผลิต และช่วยยกระดับจากอาหารไปสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
         

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่เยี่ยมชมแปลงปลูกขมิ้นชัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกขมิ้นชันคุณภาพสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีแผนที่จะช่วยผลักดันให้ขมิ้นชันของ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่รับรู้ทั้งในและต่างประเทศ และช่วยขับเคลื่อนตลาดเชิงรุก ร่วมกับกลุ่มผู้ซื้อและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น กลุ่มเวชพงศ์โอสถ โรงแรมวังใต้ รวมทั้งจับมือเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ขายกับชุมชนแหล่งขมิ้นชันบ้านตาขุน เพื่อกระตุ้นตลาดขมิ้นชันให้เติบโตมีผลผลิตที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เกิดการสร้างงาน และเพิ่มรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่
         

“ในการส่งเสริมการตลาดให้แก่สมุนไพรขมิ้นชัน จะเน้นยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เนื่องจากขมิ้นชันเป็นสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สามารถแปรรูปเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตามแนวคิด Smart Local ของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่น เพื่อยกระดับเป็น Superfood ของไทยที่ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตอบโจทย์กระแสการดูแลสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงสินค้าสู่ภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจสปา เพิ่มความมั่งคั่งในภาคเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในทุกมิติการค้า”นายสินิตย์กล่าว

44989 44e70
ขมิ้นชัน จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน มูลค่ารวม 12,211 ล้านบาท และมีมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในประเทศปี 2565 สูงถึง 52,000 ล้านบาท
         

นายสินิตย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้เดินทางไปพบปะกลุ่มผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือสินค้าพื้นถิ่นที่โดดเด่นของ จ.กระบี่ คือ สาหร่ายขนนกกระบี่ ณ วิสาหกิจชุมชนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกกระบี่ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อผลักดันให้เป็นของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่น ภายใต้โครงการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน Smart Local ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด โดยได้เชิญผู้จัดจำหน่ายจากภาคธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านค้าส่งค้าปลีก ร้านขายของฝาก แหล่งจำหน่าย ผู้แทนโรงแรม เครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ มาเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สาหร่ายขนนกกระบี่กับผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตและชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
         

สำหรับ จ.กระบี่ มีการส่งเสริมให้เพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกในบริเวณพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล โดยวิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกกระบี่มีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกแบบธรรมชาติ ได้พัฒนาและเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เช่น อาหารทานเล่น ครีมทาตัว โดยกระทรวงพาณิชย์ และ จ.กระบี่ ได้เตรียมร่วมกันผลักดันสาหร่ายขนนกกระบี่เข้าร่วมโครงการ Herb To Go สมุนไพรไทย เพื่อยกระดับสาหร่ายขนนกกระบี่จากจุดเริ่มต้นที่เป็นอาหารเพื่อรับประทาน (มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน ไอโอดีน และกรดอะมีโนหลายชนิด) พัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค โดยนำจุดเด่นของสารสกัด Phenolic มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ มีคุณประโยชน์ต่อผิวหนัง ยับยั้งการทําลายของแสงแดดต่อผิวหนัง ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย มาเป็นไฮไลต์ในการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดสาหร่ายขนนกกระบี่ ภายใต้สโลแกน “กินก็ได้ ใช้ก็ดี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ตรงกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด Krabi Goes Green