ข่าวดี สยบ “โรคกุ้งแห้งพริก”สำเร็จ

โรคแอนแทรคโนสหรือที่เกษตรกรเรียกว่า “โรคกุ้งแห้งพริก”เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุดต่อการปลูกพริกของเกษตรกรทั่วทุกภาคโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถเข้าทำลาย “ต้นพริก” ได้ทุกระยะการเจริญเติบโตทั้งต้น ใบ ดอก และผลพริก ทำความเสียหายแก่ผลผลิตทั้งก่อนและหลังเก็บเกี่ยวสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์

278561173 316824097263478 979548325024415164 n

โรคกุ้งแห้งพริก

สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จ.ขอนแก่น (สวพ. 3) จึงได้วิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์ชนิดใหม่โดยนำเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส (บีเอส) ที่มีการคัดเลือกเบื้องต้นจากห้องปฏิบัติการต่างๆ มาศึกษาต่อยอด ทดสอบประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อรา สาเหตุโรคแอนแทรคโนสของพริก และพัฒนาวิธีการผลิตให้เป็นชีวภัณฑ์แบบพร้อมใช้ที่ผลิตขยายได้ง่ายและต้นทุนต่ำ จนได้ ชีวภัณฑ์ บีเอส ดีโอเอ-19W6 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช (สอพ.)หน่วยงานในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตร ได้ทดสอบว่ามีประสิทธิภาพสามารถควบคุม “โรคกุ้งแห้งพริก” ได้ผล

278570094 316822020597019 6701523435312787969 n

โรคกุ้งแห้งพริก

โดย ชีวภัณฑ์ บีเอส ดีโอเอ-19W6 มีจุดเด่นที่สามารถผลิตขยายได้ง่ายเกษตรกรสามารถผลิตเองได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนา

การผลิตขยาย ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 มีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากวัสดุอุปกรณ์สามารถหาได้ง่าย ประกอบด้วย หัวเชื้อ บีเอส ดีโอเอ-19W6 นมกล่องสเตอริไลส์ (นม UHT) รสจืดยี่ห้อใดก็ได้ เข็มฉีดยาขนาดเบอร์ 25 กระบอกฉีดยาขนาด 5 มิลลิลิตรและสก็อตเทปใส

278585203 316821920597029 4939454505221099866 n 2

โรคกุ้งแห้งพริก

วิธีการผลิตขยาย ให้แกะฝากล่องนมบริเวณด้านข้างให้ยืดขึ้นไปเป็นรูปสามเหลี่ยม และมองเห็นจุดฟอยล์สีเงินสำหรับแทงหลอดดูดชัดเจน

278474131 316821350597086 4377315705891102264 n

หัวเชื้อบีเอส ดีโอเอ-19W6

จากนั้นนำเข็มฉีดยาต่อกับกระบอกฉีด แล้วดูด หัวเชื้อบีเอส ดีโอเอ-19W6 ปริมาตร 2 มิลลิลิตร จากขวดหัวเชื้อและฉีดหัวเชื้อ บีเอส ดีโอเอ-19W6 ลงในนม ปริมาตร 200 มิลลิลิตร (1 กล่อง) ตรงบริเวณกระดาษฟอยล์สีเงินสำหรับแทงหลอดดูด แล้วจึงใช้สก็อตเทปใสปิดทับบริเวณรอยที่ฉีดหัวเชื้อลงไป เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่น นำไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้เชื้อแบคทีเรียขยายเพิ่มปริมาณในนมก่อนจะนำไปใช้ หากใช้ไม่หมดสามารถเก็บไว้ได้ 12 วัน ที่อุณหภูมิห้อง

ส่วนเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยก่อนเก็บให้นำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที และก่อนนำมาใช้ในครั้งต่อไปให้ต้มในน้ำเดือดอีกประมาณ 5 นาที

สำหรับวิธีการใช้ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ป้องกันกำจัดโรคกุ้งแห้งพริก ดร.รัติกาล ยุทธศิลป์ นักวิจัยหลักที่พัฒนาต่อยอดจนได้ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ได้ให้คำแนะนำว่าในระยะต้นกล้า ให้นำชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ที่ขยายในนม อัตรา 100 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร และสารจับใบ (อัตราตามคำแนะนำข้างฉลาก) พ่นลงบนต้นกล้าที่เริ่มมีใบจริง (อายุประมาณ 10 วัน หลังเพาะ) และพ่นซ้ำทุก 7 วัน จนกว่าจะย้ายปลูก

ส่วนในระยะที่พริกติดดอกและเริ่มติดผลเขียว ให้นำชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ในอัตราดังกล่าวพ่นทุก 7 วัน จนกว่าจะเก็บผลผลิตหมด โดยควรพ่นตอนเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงแดด และพ่นให้ทั่วทั้งต้นจนเปียก

ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 สามารถควบคุม“โรคกุ้งแห้งพริก”ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้การระบาดของโรคลดลงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือสามารถผลิตขยายได้ง่ายในนมกล่อง ใช้ต้นทุนต่ำเพียงไร่ละประมาณ 600 บาท โดยเชื้อที่ขยายในนม 2

กล่องผสมน้ำสามารถพ่นพริกได้จำนวน 1 ไร่ ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 12% และยังสามารถเก็บผลผลิตได้มากกว่า 5 รุ่น ซึ่งหากมี “โรคกุ้งแห้งพริก” ระบาดเกษตรกรจะเก็บผลผลิตได้ไม่เกิน 2 รุ่น โดยที่ผ่านมา สวพ.3 ได้ผลิตและกระจายหัวเชื้อให้เกษตรกรนำไปใช้ป้องกันและกำจัด “โรคกุ้งแห้งพริก”แล้วในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ และนครพนม

เกษตรกรที่ประสบปัญหาการระบาดของ “โรคกุ้งแห้งพริก” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 กรมวิชาการเกษตร จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ 043-203500 ต่อ 292”