โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯเลือกหนองบัวลำภูจังหวัดแรก เหตุรายได้ต่อหัวประชากรอยู่อันดับ 76 ท่องเที่ยวอยู่บ๊วย เตรียมยกระดับรายได้ ส่งเสริมท่องเที่ยว-เกษตร อนุมัติงบทำซิปไลน์ภูแอ่น เชื่อมคมนาคม 5 จังหวัด ยกเครื่องชลประทานครั้งใหญ่

S 16359780
ทีมโฆษกรัฐบาลแถลงผลการประชุม ครม.

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมโฆษก ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ว่า เหตุผลที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงการคลัง เลือก จ.หนองบัวลำภู ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก เพราะ จ.หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวประชากรต่ำ เป็นอันดับ ที่ 76 ของประเทศ เฉลี่ยจีดีพีรายได้ต่อหัว 6.3 หมื่นกว่าบาท ส่วนในแง่ของการท่องเที่ยว อยู่อันดับ 77 ของประเทศ รายได้ต่อปีเพียง 274 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีภัยแล้ง หนักสาหัสมาก โดยพื้นที่ชลประทานทั้งจังหวัด 2.5 กว่าล้านไร่ เป็นพื้นที่เกษตร 1.9 ล้านไร่ และอยู่ในเขตชลประทานเพียง 1.1 แสนกว่าไร่ รวมถึงปัญหายาเสพติดเยอะมาก ซึ่งนายกฯ และครม. นึกถึงเสมอว่า เราต้องลดช่องว่าง ลดการเหลื่อมล้ำให้ได้

สิ่งที่ที่ประชุม ครม. จะทำให้ จ.หนองบัวลำภู คือ การเพิ่มจีดีพี โดยเน้นเรื่องเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยวและเกษตรเป็นหลัก รวมถึงด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะยาเสพติด แต่ขณะเดียว จ.หนองบัวลำภูมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ภูแอ่นในอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ เดิมมีสกายวอล์คอยู่แล้ว รัฐบาลจะเพิ่มซิปไลน์ (เครื่องเล่นสลิง) ระยะ 1 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณไม่เกิน100 ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด และเนื่องจากหนองบัวลำภูมีความโดดเด่นเรื่องผ้าทอ โดยเฉพาะผ้าขิตสลักหมี่ ลายบัวลุ่มภู ที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด จะมีการสร้างศูนย์ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือการทอผ้าขิตสลักหมี่เพิ่มเติมอีก 4 ศูนย์ รวมเป็น 7 ศูนย์ เพื่อยกระดับฝีมือในการทอผ้า สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน

ด้านคมนาคม รัฐบาลจะเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมใน 5 จังหวัดอีสานตอนบน ให้เป็นคลัสเตอร์เดียวกัน ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวสะดวก ไม่ถูกลืมอีกทั้งจะมีการปรับปรุงเส้นทาง อ.นากลาง เชื่อม จ.เลย

ด้านการแก้ปัญหาภัยแล้ง จะมีการสร้างฝายกักเก็บน้ำที่บ้านนาไร่ ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา เพื่อกักเก็บน้ำลุ่มน้ำโมง โดยจะทำทันที รวมถึงในลุ่มน้ำต่างๆ ที่เป็นลำน้ำขนาดเล็กทั่วจังหวัดทั้ง 6 อำเภอ โดยจะสร้างฝาย 92 แห่ง รวมถึงขุดลอกลำพะเนียง ใส่เครื่องมือกักเก็บน้ำ คลองไส้ไก่ ถือเป็นการปรับระบบชลประทานครั้งใหญ่ของหนองบัวลำภู ใช้งบประมาณราว 1 พันล้านบาท

ด้านความปลอดภัย จ.หนองบัวลำภู ปัจจุบันมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 3,800 คน ช่วยสแกนดูแลหาคนที่ติดยาเสพติดไปบำบัดรักษา แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ รัฐบาลจึงจะให้งบประมาณสำหรับฝึกอบรมอีก 6 พันกว่าคน เพื่อให้มี ชรบ.ที่ผ่านการฝึกอบรมทุกหมู่บ้าน

ขณะเดียวกัน ชาวหนองบัวลำภู ยังได้รับประโยชน์ จากการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก 4-01 ในจังหวัด 9.5 แสนไร่ โดยในวันที่ 15 ธ.ค. จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารจาก ส.ป.ก. เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร สามารถซื้อขายได้ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเกษตร เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม ยังเห็นชอบ กำหนดยุทธศาสตร์การจดทำงบประมาณปี 2568 วงเงิน 3,591,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้คืนเงินค่าตัดอ้อยให้ชาวไร่ลดมลพิษ PM 2.5 งบ 7,990 ล้านบาท ไม่เกิน 120 บาท/ต่อ โดยธกส. ขอเวลา 1 เดือน ในการบริหารจัดการ