พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ชี้แจงเหตุราคามังคุดตกต่ำ ย้ำไม่ได้เกิดจากการกดราคา เร่งแก้ปัญหาการส่งออกและกระตุ้นบริโภคในประเทศ

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี แถลงชี้แจงสถานการณ์ราคามังคุดตกต่ำอย่างหนักในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดในรอบเดือน โดยราคาซื้อขายที่เคยอยู่ในระดับสูงถึง 200 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงต้นฤดูกาล ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 50 บาท และบางพื้นที่รับซื้อเพียง 40 บาทต่อกิโลกรัม

มังคุดไทย

นายจิรวุฒิ สุรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ระบุว่า ราคาที่สูงในช่วงต้นฤดูกาลเกิดจากปริมาณผลผลิตที่ยังน้อยและการซื้อขายยังไม่มากนัก จึงไม่สะท้อนราคาตลาดที่แท้จริง เมื่อผลผลิตเริ่มออกมากขึ้น กลไกตลาดจึงทำงานตามปกติ ส่งผลให้ราคาค่อย ๆ ปรับตัวลง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสำคัญจากฝั่งประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก กล่าวคือ เทศกาลสำคัญของจีน เช่น วันแรงงาน และวันแม่แห่งชาติ (11 พฤษภาคม) ได้สิ้นสุดลง ทำให้คำสั่งซื้อลดลงตามฤดูกาล ประกอบกับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ราคามังคุดไทยแพงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งกระทบต่อการส่งออกโดยตรง , อีกประเด็นสำคัญคือ ปัญหาการจราจรของรถขนส่งผลไม้บริเวณหน้าด่านชายแดนจีน-ไทย โดยเฉพาะรถทุเรียนที่ต้องผ่านการตรวจสอบสารตกค้างอย่างเข้มงวด ทำให้รถขนส่งมังคุดซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเช่นเดียวกันกับทุเรียน กลับต้องติดค้างที่หน้าด่านด้วย ส่งผลให้ผู้ประกอบการลังเลที่จะรับซื้อ เนื่องจากกังวลว่ามังคุดจะเน่าเสียก่อนถึงปลายทาง

ทั้งนี้นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี เร่งดำเนินการประสานงานกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศจีน เพื่อเจรจากับศุลกากรจีน ณ ด่านโยอี้กวนและโม่ฮาน ขอเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับการตรวจสินค้า เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และขยายเวลาทำงานของด่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถขนส่งผลไม้จากประเทศไทย คาดว่าจะได้รับความชัดเจนในช่วงปลายสัปดาห์นี้

พร้อมกันนี้ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี กระทรวงพาณิชย์ยังได้เตรียมรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศจีน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ถึงความปลอดภัยจากสารตกค้างในผลไม้ไทย ทั้งที่ผ่านการตรวจสอบจากฝั่งไทยและจีน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคชาวจีน , สำหรับในประเทศ ขณะนี้ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ภาคตะวันออกในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเอง โดยหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศ และช่วยพยุงราคาผลไม้ให้สูงขึ้นได้

ในส่วนของข้อกังวลของเกษตรกรเรื่องการกดราคารับซื้อจากโรงคัดบรรจุนั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า มีกฎหมายควบคุมราคาชัดเจน หากพบการจงใจกดราคา จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้ว

ท้ายที่สุด พาณิชย์จังหวัดจันทบุรีขอความร่วมมือเกษตรกรติดตามสถานการณ์ราคาผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีพร้อมยืนยันว่า มีมาตรการรองรับโดยการกระจายผลผลิตส่วนเกินออกนอกพื้นที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบ และคาดว่าสถานการณ์จะค่อย ๆ คลี่คลายดีขึ้นในเร็ววันนี้