ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน Kick Off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดเชื่อมโยงไปยัง 144 จุดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ดำเนินการภายใต้เป้าหมายของการพัฒนาศักยภาพต้นไม้และต้นยางพาราให้เป็นสินทรัพย์ ที่สามารถใช้เป็นหลักประกันในระบบสินเชื่อ เชื่อมโยงกับสถาบันการเงินทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันการเงินต่าง ๆ ยกระดับมูลค่าที่ดิน และหนุนเสริมการสร้างรายได้อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การประกอบการเนื้อไม้ และกิจกรรมคาร์บอนเครดิต เป็นต้น ซึ่ง ส.ป.ก. และ กยท. ได้มีการศึกษาและกำหนดขั้นตอน วิธีปฏิบัติ รวมทั้งพัฒนาระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการนำความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมเทคโนโลยี มาประยุกต์ในการขับเคลื่อนนโยบาย
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ผลักดันโครงการโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา ต่อเนื่องจากที่ดิน ส.ป.ก. เป็นการสร้างคุณค่าให้เพิ่มขึ้นไม่เฉพาะต้นยางพารา แต่รวมไปถึงต้นไม้ทั้ง 58 ชนิด โดยโครงการดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงเอกสารรับรองการมีอยู่ของต้นไม้และต้นยางพารา แต่เป็นการเปิดประตูให้ต้นไม้และต้นยางพารากลายเป็นทรัพย์สินที่ใช้การได้ ทั้งในฐานะหลักทรัพย์เพื่อขอสินเชื่อ หรือทรัพย์ที่มีมูลค่าในระบบเศรษฐกิจไทย และเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมไปถึงสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ตั้งเป้าที่จะออกโฉนดต้นยางพาราในพื้นที่สวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย จำนวน 11.17 ล้านไร่ ตามแผน 2 ปี หลังจากให้ไปดูแลพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน เพื่อจะสามารถออกโฉนดต้นยางได้ จนครบทั้ง 22 ล้านไร่ทั่วประเทศ เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพการทำสวนยางอย่างยืน ซึ่งโฉนดสวนยางนั้นจะเพิ่มมูลค่าให้กับต้นยางอย่างน้อยเฉลี่ยประมาณไร่ละ 27,000 บาท ถ้าออกโฉนดต้นยางได้ครบ 22 ล้านไร่ จะทำให้ต้นยางมีมูลค่ารวมถึง 500,000 – 600,000 ล้านบาท
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ตนขอประชาสัมพันธ์โครงการดี ๆ ให้เกษตรกรทั่วประเทศช่วยกันบอกต่อและชักชวนกันมาขึ้นทะเบียน เพื่อที่เราจะได้เดินหน้าแจกโฉนดให้ครบตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ตนต้องขอบคุณเกษตรกรและผู้บริหารทุกๆท่านของกระทรวงเกษตรฯที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้เกิดเรื่องดี ๆ ในวันนี้ขึ้นมาได้ และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องเกษตรกรไทยทุกท่านด้วย
ด้านนายอิทธิ กล่าวว่า วันนี้เกษตรกรไม่จำเป็นต้องไปโค่นต้นยางหรือต้นไม้ต่าง ๆ เพราะต้นไม้เหล่านั้นกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวเอง โครงการที่เกิดขึ้นในวันนี้จะทำให้ต้นไม้ที่อยู่บนที่ดินของเกษตรกรมีมูลค่ามหาศาลในอีก 20 ปีข้างหน้า เกษตรกรไทยทุกคนกำลังจะกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับหลายสิบล้าน หากให้แต่ที่ดินอย่างเดียวก็จะไม่มีมูลค่าเท่ากับเพิ่มมูลค่าให้ต้นไม้ที่อยู่บนที่ดินที่สามารถนำไปต่อยอดได้ วันนี้สิ่งที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินหน้าทำให้สำเร็จในทุกๆโครงการที่วางเป้าหมายเอาไว้ เพื่อชีวิตของพวกเราทุกคนครอบครัวเกษตรจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พวกเราขอแสดงความยินดีให้กับเกษตรกรทุกรายที่วันนี้จะได้รับมอบโฉนดต้นยางพาราและต้นไม้
นายอัครา กล่าวว่า จริง ๆ ตนไม่ได้กำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทย และ ส.ป.ก. แต่ด้วยความที่พวกเรา 3 พี่น้องรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ไปไหนไปกัน แยกกันไม่ได้ จึงขอให้กำลังใจกับเกษตรกร ว่าที่มหาเศรษฐีทุกท่าน
ทั้งนี้ สำหรับการจัดงาน Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพาราในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างการรับรู้ผลการดำเนินงานนโยบายโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา โดยมีการมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารารวมจำนวนกว่า 11,620 ฉบับ นอกจากนี้ ยังได้มีพิธีลงนามแสดงเจตจำนงระหว่าง ธ.ก.ส. , ส.ป.ก. และ กยท. ในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เป็นแหล่งทุนใหม่สำหรับเกษตรกร พร้อมจัดกิจกรรมมอบต้นไม้ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมงานเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและการเริ่มต้นผลักดันนโยบายด้วย