ภาพรวมลำไย 8 จังหวัด ภาคเหนือ ปี 68 ผลผลิตรวม 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% ลำไยในฤดูเริ่มออกตลาดแล้ว สศท.1 เชิญชวนบริโภคลำไยคุณภาพ

ผอ.สศท.1

นางสุจารีย์  พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์ผลิตลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน) โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกภาคเหนือ จัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ ครั้งที่ 2/2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568) พบว่า ปี 2568 ลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ มีเนื้อที่ยืนต้น จำนวน 1,243,784 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 1,251,506 ไร่ (ลดลง 7,722 ไร่ หรือร้อยละ 0.62 เนื่องจากเกษตรกรโค่นต้นลำไยที่มีอายุมากและให้ผลผลิตน้อย โดยปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ยางพารา ทุเรียน มะม่วง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ด้านผลผลิตรวม มีจำนวน 1,064,242 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 947,140 ตัน (เพิ่มขึ้น 117,102 ตัน หรือร้อยละ 12) เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นยาวนาน เอื้ออำนวยต่อการติดดอก ไม่กระทบแล้ง ส่งผลให้ติดผลมากกว่าปีที่ผ่านมา                        

S 20791416 0

ทั้งนี้ ผลผลิตลำไยในฤดู ออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน 2568 และจะออกตลาดมากที่สุดในเดือนสิงหาคม 2568 ประมาณ 422,400 ตัน หรือ ร้อยละ 57 ของผลผลิตในฤดูทั้งหมด

           

S 20791419

สถานการณ์การผลิตลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ ปี 2568 พบว่า ลำไยในฤดู มีจำนวน 740,639 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 598,528 ตัน (เพิ่มขึ้น 142,111 ตัน หรือ ร้อยละ 24) และลำไยนอกฤดู (ออกสู่ตลาดมกราคม – พฤษภาคม และ ตุลาคม – ธันวาคม) มีจำนวน 323,603 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วที่มีจำนวน 348,612 ตัน (ลดลง 25,009 ตัน หรือร้อยละ 7) ด้านสถานการณ์ราคาลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ ณ เดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่ลำไยในฤดู      เริ่มออกสู่ตลาด (เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 2,684 ตัน) ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ราคาที่เกษตรกรขายได้ แบ่งตามเกรด ได้แก่  ลำไยสดช่อ เกรด AA+A (ตะกร้าขาว) ราคา 40 บาท/กิโลกรัม ลำไยรูดร่วง เกรด AA ราคา 26 บาท/กิโลกรัม , เกรด A ราคา 10 บาท/กิโลกรัม , เกรด B ราคา 6 บาท/กิโลกรัม และเกรด C ราคา 1 บาท/กิโลกรัม

           

S 20791409 0

แนวทางการบริหารจัดการลำไยในฤดูของภาคเหนือ ซึ่งคณะทำงานได้ร่วมกันวางแนวทางการบริหารสมดุล Demand-Supply โดยมีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการ สำหรับความต้องการผลผลิตส่วนใหญ่จะเน้นการแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งทั้งเปลือก อบแห้งเนื้อสีทอง น้ำลำไยสกัดเข้มข้น ลำไยกระป๋อง ฟรีซดราย และแช่แข็ง จำนวน 520,099 ตัน บริโภคสดในประเทศ จำนวน 124,847 ตัน และส่งออกลำไยสด จำนวน 95,693 ตัน อย่างไรก็ตาม เดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ผลผลิตออกกระจุกตัว อาจส่งผลกระทบต่อราคาลำไย ซึ่งหน่วยงานภาครัฐทั้งที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การตลาด ได้เตรียมแผนบริหารจัดการสินค้าและเชื่อมโยงกับตลาดภายนอกจังหวัด เพื่อบริหารจัดการในช่วงที่ผลผลิตออกกระจุกตัวในช่วงเดือนสิงหาคมนี้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนการจำหน่ายลำไยเพื่อบริโภคสดในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้มีการบริหารจัดการ โดยมีกิจกรรมการจัดทำแผนกระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต ขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และผู้ประกอบการในตลาดกลางสินค้าเกษตรที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายในในอัตราไม่เกินกิโลกรัมละ 3 บาท รวม 1,304 ตัน อีกทั้งมุ่งเน้นกระจายออกนอกแหล่งผลิตผ่าน Modern Trade เครือข่ายสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ธ.ก.ส. ไปรษณีย์ ตลาดออนไลน์ และตลาดอื่น ๆ อาทิ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตลาดไท พาณิชย์ หน่วยงานราชการ เป็นต้น

S 20791421

อย่างไรก็ตาม การผลิตลำไยในปีนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรชาวสวนลำไยควรหมั่นสำรวจสวนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาผลผลิตให้มีคุณภาพ และให้เฝ้าระวังเพลี้ยแป้ง ซึ่งเป็นศัตรูพืชสำคัญในลำไยเพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด ทั้งนี้ การบริโภคผลผลิตลำไยจากเกษตรกรไทยจะแนวทางสำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคง เป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรของประเทศ จึงขอเชิญชวนผู้บริโภคร่วมสนับสนุนผลผลิตลำไยของเกษตรกร ซึ่งพร้อมออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนรายได้ สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พี่น้องเกษตรกร ในการดำเนินอาชีพ และผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน หากท่านใดที่สนใจข้อมูลสถานการณ์การผลิตลำไยภาคเหนือ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.1 โทร 0 5312 1318 หรืออีเมล [email protected]   

S 20791411 0