วันที่ 17 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เข้าตรวจค้นห้องเย็นในซอยริสกี และ ซอยอะลา ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าลักลอบเก็บรักษาและกระจายซากเนื้อสัตว์นำเข้าผิดกฎหมายไปยังตลาดและร้านอาหารในเขตปริมณฑล รวมถึงกรุงเทพฯด้วย
จากการตรวจสอบพบบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ระบุแหล่งที่มาจากต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศต้นทางที่มีการควบคุมการนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์อย่างเข้มงวด หากไม่ผ่านการตรวจรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังตรวจพบถังน้ำแข็งที่ใช้แช่เครื่องในสัตว์ ซึ่งอยู่ในสภาพผิดปกติ เมื่อตรวจสอบใกล้เคียงพบถังพลาสติกบรรจุสารละลายฟอร์มาลดีไฮด์สำหรับอุตสาหกรรม (หรือฟอร์มาลีน) วางอยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อเปิดถังน้ำแข็งและตรวจสอบ พบว่าชิ้นส่วนเครื่องในสัตว์มีกลิ่นคล้ายฟอร์มาลีนอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ เสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดซากเนื้อโคแช่แข็งต่างประเทศ และไม่มีบรรจุภัณฑ์ ไม่ทราบแหล่งที่มา จำนวน 41,771.85 กก. พร้อมของเหลวบรรจุในถังพลาสติกสีดำ ฉลากระบุ สารละลายฟอร์มาลดีไฮด์สำหรับอุตสาหกรรม จำนวน 9 ถัง รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 4,230,800 บาท
สำหรับการตรวจค้นและยึดของกลางดังกล่าว เนื่องจากทางตำรวจ บก.ปคบ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท กรมปศุสัตว์ สนธิกำลังกันตรวจค้นห้องเย็น 4 จุด ในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายหลังได้รับแจ้งว่าเป็นแหล่งเก็บและกระจายซากเนื้อสัตว์นำเข้าผิดกฎหมายไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผลการตรวจสอบภายในห้องเย็น พบซากเนื้อโคแช่แข็งมากกว่า 41 ตัน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท จัดเก็บโดยไม่มีเอกสารแสดงแหล่งที่มา และเอกสารแสดงการนำเข้าตามที่กฎหมายกำหนด
จากการเปิดถังน้ำแข็งและตรวจสอบ พบว่าชิ้นส่วนเครื่องในสัตว์มีกลิ่นคล้ายฟอร์มาลีน อย่างชัดเจน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ เสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค เจ้าหน้าที่จึงอายัดซากสัตว์ทั้งหมดไว้ในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งให้ผู้ครอบครองนำเอกสารแสดงความถูกต้องมาชี้แจงภายใน 15 วัน หากไม่สามารถแสดงเอกสารได้ จะถูกดำเนินคดีซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
