เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ

สำหรับขั้นตอนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จะเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย ด้วยวิธีการขานชื่อ สส. ตามลำดับตัวอักษร ให้ออกเสียงเป็นรายบุคคล ซึ่งผู้ที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะต้องได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบ มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือคิดเป็น 247 เสียง จากจำนวน สส. ปัจจุบัน 492 คนเมื่อได้ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎร (วันมูหะมัดนอร์ มะทา) จะเป็นผู้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ประวัติ “อนุทิน” ว่าที่นายกฯคนที่ 32
สำหรับประวัติของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นบุตรชายของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต สส. และรัฐมนตรีหลายสมัย เกิดวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2509 ชื่อเล่น “หนู” สื่อมวลชนนิยมเรียกกันว่า “เสี่ยหนู” อายุในปี 2568 จะอายุครบ 59 ปี
การศึกษา นายอนุทิน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ก่อนไปศึกษาต่อที่ สหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ. 2532 จบระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา (Hofstra University) ที่นิวยอร์ก และเริ่มต้นชีวิตการทำงานในธุรกิจของครอบครัวระหว่างนั้นก็ยังศึกษาหาความรู้เพิ่ม ทั้ง Mini MBA มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 17 (บ.ย.ส.17) และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 (วปอ.61)
ชีวิตครอบครัว
นายอนุทิน สมรสครั้งแรกกับ สนองนุช วัฒนวรางกูร เมื่อ พ.ศ. 2533 และมีบุตร 2 คน คือ นัยน์ภัค และ เศรณี ชาญวีรกูล ต่อมาใน พ.ศ. 2556 ได้หย่าร้าง และสมรสใหม่กับ ศศิธร จันทรสมบูรณ์ ต่อมาในเดือนมกราคม 2562 นายอนุทิน ได้หย่ากับ ศศิธร และปัจจุบันคบหาดูใจกับ สุภานัน นิราษิท หรือ จ๋า ภรรยาคนที่ 3 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เส้นทางการเมือง
นายอนุทิน เข้าสู่วงการการเมืองเมื่อปี 2539 โดยการรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ประจวบ ไชยสาส์น) และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2548) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์(พ.ศ.2547)ต่อมาถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และหลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิทางการเมืองในปี 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา ที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชาชนร่วมกับกลุ่มเพื่อนเนวิน และต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคต่อจากบิดา
จากนั้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 นายอนุทิน ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งหลังการเลือกตั้ง นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเป็นสมัยที่ 2 และได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคภูมิใจไทยยังคงมีบทบาทสำคัญ นายอนุทินได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลเพื่อไทย
จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2567 นายอนุทินและพรรคร่วมรัฐบาล ได้เผชิญกับความขัดแย้งที่รุนแรงในหลายประเด็น ทั้งเรื่องนโยบายและการบริหารงาน ส่งผลให้เกิดความไม่ลงรอยกันอย่างหนัก จนเดือน มิ.ย. 2568 นายอนุทิน ได้ทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
กระทั่งเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงที่สนทนากับ “ฮุน เซน” ทำให้ต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้มีการแถลงจัดตั้งรัฐบาลที่รัฐสภา โดยมี “พรรคประชาชน” พรรคการเมืองที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรสนับสนุน พร้อมรายชื่อ สส.จากพรรคการเมืองต่างๆอีกจำนวน 146 คน ร่วมสนับสนุนให้ นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี และทำให้ถูกคาดการณ์ว่านายอนุทิน จะได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทยต่อไป




