
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยข่าวดีว่า กรมวิชาการเกษตรคว้า 5 รางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 จากสำนักงาน ก.พ.ร. ในสาขาบริการภาครัฐ ตอกย้ำความทุ่มเทในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งพัฒนาเกษตรไทยให้ก้าวไกลสู่อนาคต โดยจะเข้ารับรางวัลจากศาสตราจารย์กิติคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ในงานเสวนาวิชาการและพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ วันที่ 12 กันยายน 2568 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

โดย 5 ผลงานของกรมวิชาการเกษตรที่คว้ารางวัล ได้แก่
- ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล ระดับดีเด่น “ยกระดับสมุนไพรไทย เชื่อมโยงห่วงโซ่อุตสาหกรรม แสนล้านบาท จากสถาบันวิจัยพืชสวน” จากงานวิจัยลงสู่แปลงเกษตรจริง กระจายพันธุ์สมุนไพรคุณภาพเพื่อการแพทย์ ให้สารสำคัญสูง เชื่อมโยงตลาดกับโรงพยาบาล แปรรูปเป็นเวชภัณฑ์ รักษาโรค เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 5-8 พันบาท/ราย เป็น 2-5 หมื่นบาท/ราย
- ประเภทนวัตกรรมการบริการ ระดับดี “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ นวัตกรรมใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผลิตกาแฟไทย” คิดค้นโดยศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมเชียงใหม่ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม ตอบโจทย์การลดต้นทุนแรงงาน เก็บเกี่ยวได้ทุกพื้นที่ ราคาประหยัด เกษตรกรเข้าถึงได้จริง ถือเป็นก้าวใหม่ของเศรษฐกิจกาแฟไทย
- ประเภทบริการตอบโจทย์ตรงใจ ระดับดี “ตอบโจทย์การค้าพืชอนุรักษ์ด้วย e-CITES Permit”ของสำนักคุ้มครองพันธุ์พืช ผู้รับบรารสามารถขอรับบริการได้ตลอดเวลา ผ่านระบบออนไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ มีการเชื่อมโยงข้อมูลของราชการ ข้อมูลหนังสืออนุญาตพืชอนุรักษ์ กับหน่วยงานภายในและภายนอกให้เสร็จสิ้นในจุดเดียว ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนในการดำเนินการ
- ประเภทยกระดับการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ ระดับดี “การยกระดับคู่มือประชาชน95งานบริการ” กรมวิชาการเกษตรเดินหน้า “ปฏิรูปงานบริการ” แบบก้าวกระโดด ด้วยการปรับปรุงกฎหมายให้ประชาชนใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เต็มรูปแบบ ยกเลิกสำเนาเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และหนังสือรับรองนิติบุคคล เชื่อมโยงข้อมูลตรงกับกรมการปกครองและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมทั้งยกระดับบริการ 95 งาน โดย ให้บริการฟรี 36 งาน ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และพัฒนาระบบตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการให้เร็วขึ้น เปิดช่องทาง DOA-NSW 8 ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้งานสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังจัดตั้ง ศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Center) รวบรวมงานอนุญาต งานข้อมูล และการร้องทุกข์ไว้ในที่เดียว ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ง่าย รวดเร็ว โปร่งใส และทันสมัยอย่างแท้จริง
- ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล ระดับดี “เครือข่ายชุมชนเกษตรปลอดภัยอีสานตอนบน สู่การผลิตอาหารที่ยั่งยืน” สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ก้าวข้ามความท้าทาย สร้างเครือข่ายชุมชนต้นแบบเกษตรปลอดภัย ขับเคลื่อนสู่การผลิตอาหารที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้น การใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย สร้างมาตรฐานการผลิตพืชให้เข้าถึงระดับชุมชน เกษตรกรปลูกผักและผลไม้ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของเกษตรกรเอง ผลงานนี้ทำได้จริงตั้งแต่การ ศึกษาปัญหาเชิงลึก ตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้าง ประเมินความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมถึงรายงานความเสี่ยงต่อชุมชน เพื่อวางแนวทางแก้ไขร่วมกัน พร้อมกับรณรงค์สร้างการรับรู้ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่สื่อสารทั้งออนไลน์ วิทยุ และเครือข่ายตัวแทนท้องถิ่น ทำให้เกษตรกรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องทันเวลา และครบถ้วน ส่งผลให้เกิด เครือข่ายความร่วมมือครบวงจร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจำหน่าย เกษตรกรมีรายได้มั่นคงขึ้น ขณะที่ประเทศได้ก้าวสู่ความมั่นคงทางอาหารอย่างแท้จริง

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า รางวัลเลิศรัฐ ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุด ของหน่วยงานภาครัฐ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนางานบริการภาครัฐ สู่ความทันสมัย โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างแท้จริง ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนชัดถึงความทุ่มเท ของบุคลากรกรมวิชาการเกษตร ที่ทำงานหนัก บูรณาการความรู้ วิจัย และนวัตกรรม จนสามารถเปลี่ยน “นโยบาย” ให้กลายเป็น “ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” และ 5 รางวัลเลิศรัฐปี 2568 ไม่เพียงเป็นเกียรติยศสูงสุดของกรมวิชาการเกษตร แต่ยังเป็นพลังใจสำคัญในการพัฒนาเกษตรไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน









