ได้มีโอกาส ไปดูงานที่ บริษัท Hebei Jieru Mei Agricultural Technology Development Co., Ltd. มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน ที่ก่อตั้งในปี 2012 ด้วยเงินลงทุนกว่า 100 ล้านหยวน ซึ่งบริษัทนี้ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ ด้านการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผัก
รัฐบาลจีนมองว่า “เมล็ดพันธุ์ คือชิปของภาคเกษตร” เพราะเป็นพื้นฐานหลัก ในการผลิตอาหาร สำหรับเลี้ยงประชากรของตัวเอง ที่มีปริมาณกว่า 1,400 ล้านคน จีนเป็นหนึ่งใน ผู้ผลิต และผู้บริโภคเมล็ดพันธุ์ผัก รายใหญ่ที่สุดของโลก มูลค่าตลาดเมล็ดพันธุ์ผัก ของจีนสูงถึง หลายหมื่นล้านหยวนต่อปี และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัท Hebei ได้รับการยอมรับ เป็นหนึ่งในผู้นำในองค์กรอุตสาหกรรมการเกษตรของมณฑล เป็นองค์กร สาธิตด้านความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ระหว่างประเทศ บริษัทได้จัดตั้ง ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยี การปรับปรุงพันธุ์หัวไชเท้าเหอเป๋ย และสถานีนวัตกรรมการเกษตรเหอเป่ย โดยสามารถพัฒนาพันธุ์ผัก ได้มากกว่า 100 สายพันธุ์ ครอบคลุมผัก หลายชนิดเช่น กะหล่ำปลี หัวไชเท้า ดอกกะหล่ำ ผักกวางตุ้ง บรอคโคลีจีน ซูกินี ฟักทอง และมะเขือเทศ ที่มีการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์แล้ว
ในบรรดาสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นเอง 11 สายพันธุ์ได้รับใบรับรอคุ้มครองพันธุ์พืช จากกระทรวงเกษตร 2 สายพันธุ์ ได้รับรางวัลผลงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับมณฑล และ 8 สายพันธุ์ได้จดทะเบียนเป็นพันธุ์อย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2019-2024 บริษัทได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Xingtai International Cruciferous Vegetable Industry Conference” ต่อเนื่อง 6 ปี โดยมีการนำเสนอพันธุ์ผักตระกูลกระหล่ำใหม่กว่า 2,000 สายพันธุ์ จากทั้งในและต่างประเทศทุกปี การประชุมได้ถ่ายทอดสดสองภาษา (จีน-อังกฤษ) ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ส่งผลเชิงบวก ต่ออุตสาหกรรม ผักตระกูลกระหล่ำทั้งใน และต่างประเทศ
จากที่กล่าวมาข้างต้น ประเทศจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อ การพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ผัก ที่ถือว่า “เมล็ดพันธุ์ คือชิปของภาคเกษตร” จีนจึงได้ลงทุนมหาศาล ในด้านการวิจัยและพัฒนา การสร้างฐานการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง และการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้จีนสามารถพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง และมีความหลากหลายสูง
บริษัท Hebei Jieru Mei Agricultural Technology Development Co., Ltd. ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของวิสาหกิจ ที่ผสมผสานการวิจัย นวัตกรรม และการตลาดเข้าด้วยกัน ช่วยผลักดันให้มณฑลเหอเป่ย กลายเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ผักที่สำคัญของจีน และยังมีบทบาทในระดับนานาชาติ ผ่านการจัดประชุมอุตสาหกรรมที่เปิดกว้าง ต่อความร่วมมือกับประเทศต่างๆ
การดูงาน ในครั้งนี้ ทำให้เห็นถึง ศักยภาพ และความก้าวหน้าของจีน ในด้านอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ผัก โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การวิจัย และปรับปรุงพันธุ์ การสร้างศูนย์นวัตกรรม การคุ้มครองพันธุ์พืช และการผลักดันสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสามารถนำมาเป็นแนวทางเปรียบเทียบ และต่อยอดในการพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยต่อไป
