“ธรรมนัส” โต้ ”วรวัจน์“ GEd ไม่ใช่ GMOs มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

S 17940517

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงกรณี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่อง การเปิดช่องนำเข้าพืช GMOs GEd ทำลายราคาสินค้าเกษตร ทำประเทศ เกษตรกรไทย สูญรายได้มหาศาล ว่า เรื่องพืชตัดต่อพันธุกรรม (Genetically Modified Organism) หรือ GMO ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรอย่างมาก ตนยืนยันว่าแตกต่างกับการปรับปรุงพันธุกรรมพืช Genome Editing หรือGEd เพราะ GMO เป็นการตัดต่อพันธุกรรมโดยนำยีนส์ของพืชต่างชนิดมารวมกัน ซึ่งเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นการทำลายพืชและสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง แต่GEd เป็นเรื่องของการปรับปรุงพันธุกรรมในพืชหรือสิ่งมีชีวิตชีวิตเดียวกัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ต้านทานโรคจนได้พันธุ์มะเขือเทศที่มีภูมิต้านทานโลก

S 17940497

ตนได้ประกาศในประกาศกระทรวงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราจะรับรองให้นักวิชาการสถาบันเกษตรกร และกรมวิชาการให้มีการศึกษาวิจัยการตัดต่อหรือการปรับปรุงจีโนม ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการนำเข้าพันธุ์พืช GMO จากต่างประเทศ

S 17940498

ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการวิจัยในห้องทดลองของกรมวิชาการเกษตรเกษตร เราบริหารราชการแผ่นดินในเวลาอันสั้นและที่สำคัญคือนโยบายขอรัฐบาลชุดนี้ในเรื่องปัญหาของเกษตรกร เราได้นำนโยบายของนายเศรษฐามาปฏิบัติคือนโยบายเพื่อการเกษตรตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

S 17940499

ทั้งนี้ในเอกสารการชี้แจงรัฐสภาของ ร้อยเอกธรรมนัส มีข้อมูลเรื่องGEd ที่น่าสนใจ ทั้งความจำเป็น แผนการดำเนินงานต่างเป็นการตอบข้อสงสัยเรื่อง GMOs และ GEd

S 17940500

ทำไมต้องปรับแต่งจีโนม

การปรับแต่งจีโนม Genome Editing : GEd เป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจาก GMOs โดยใช้การเติม ตัด หรือเปลี่ยนลำดับของยีนที่ต้องการใน จีโนม เพื่อปรับปรุงพันธุ์พืช โดยไม่มีการนำเอา DNA หรือยีนจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเข้ามาร่วมด้วย

การค้นหายีน(Gene Discovery) เป็นกระบวนการค้นหาและระบุยีนที่มีหน้าที่หรือมีความเกี่ยวข้องกับลักษณะที่ต้องการปรับปรุงพันธุ์พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย นำไปสู่การค้นพบยีนใหม่ (novel gene) และโอกาสนำยีนไปใช้ปรับปรุงพันธุ์ ตลอดจนสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับพันธุ์พืชของไทย

S 17940501

แผนการดำเนินงาน

ปี 2567-2568 อยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัยการปรับปรุง พันธุ์ในพืช ได้แก่ มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าว มะเขือเทศ และเห็ด

ระยะกลาง นำร่องปลูกทดสอบในแปลง ได้แก่ มะละกอและมะเขือเทศต้านทานโรค ฟ้าทะลายโจรสารสำคัญสูง

ระยะยาว การรับรองพันธุ์ สู่การใช้ประโยชน์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

ประเด็นการอนุญาตนำเข้าพืช GMO ตั้งแต่ปี 2553

กรณีการทดลองหรือวิจัย ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกำหนด ทั้งก่อนนำเข้าและระหว่างการทดลองวิจัย โดยกำหนดให้ต้องมีใบรับรองปลอดศัตรูพืช และสุ่มตรวจสอบศัตรูพืชและ GMOs ในห้องปฏิบัติการเพื่อการควบคุมกำกับดูแลไม่ได้เปิดเสรีให้ใช้เชิงพาณิชย์ในประเทศ ข้อยกเว้นและเงื่อนไข อาหารสำเร็จรูป และข้าวโพด/ถั่วเหลืองที่ใช้เป็น วัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ หรืออาหารสำหรับมนุษย์ หรือเพื่อการอุตสาหกรรม กำหนดให้ต้องมีใบรับรองปลอดศัตรูพืชกำกับมาด้วย ทั้งนี้ด้วยภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยมีมูลค่าหลักหมื่นถึงแสนล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบทั้ง GMOs และ non-GMOs เนื่องจากผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอ

พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องยังคงบังคับใช้อย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการอนุญาตให้นำพืชดัดแปลงพันธุกรรมมาเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ในประเทศ

ประเด็นการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง การรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร พ.ศ.2567(วันที่ 11 ก.ค. 2567)

GEd คือ อะไร?

  • เทคโนโลยี Genome Editing (การปรับแต่งจีโนม) หรือ GEd ที่ไม่ใช่ GMOs มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เนื่องจากไม่ได้มีการนำยีนจากสิ่งมีชีวิตอื่นมาผสม แต่เป็นการปรับปรุงพันธุกรรมภายในชนิดพืชนั้นเอง
  • หลายประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยอาหารสูง เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป จีนสหรัฐอเมริกา ฯลฯ ก็ได้ยอมรับเทคโนโลยี GEd นี้แล้ว
  • ประกาศกระทรวงฯ จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน และความเชื่อมั่นต่อภาคเกษตรไทย และขับเคลื่อนเกษตรไทยด้วยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ให้การวิจัยและการใช้ประโยชน์ในอนาคตเป็นไปอย่างปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
  • ยังอยู่ในกระบวนการศึกษาวิจัยการปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่รองรับภาวะวิกฤตและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเท่านั้น ไม่มีการอนุญาตนำเข้าพืช GEd ใดๆ เลย

ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนยังต้องอยู่ภายใต้ กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ สอดคล้องตามหลักเกณฑ์สากล บนพื้นฐานข้อเท็จจริงหลักการทางวิทยาศาสตร์ สร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศ