ความนิยม”ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ทำจากพืช” ในฮ่องกงที่ผู้ประกอบการไทยควรจับตามอง

ฮ่องกงเป็นเมืองที่ประชากรส่วนใหญ่มีอายุขัยยืนยาวเป็นอับดับต้น ๆ ของโลก อันเนื่องมาจากปัจจัยหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีทั้งทางธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ความมั่นคงและความเจริญทางเศรษฐกิจ ความใส่ใจของรัฐบาลในเรื่องสวัสดิการ และความพร้อมในเรื่องสาธารณสุข ตามข้อมูลสถิติของประชากรโลกประจำปี ๒๕๖๓ ของหน่วยงานสหประชาชาติ (the United Nations) พบว่า ประชากรฮ่องกงในทุก ๆ ๑๐๐,๐๐๐ ราย จำนวน ๔๗ ราย จะเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุขัย ๑๐๐ ปีหรือมากกว่า และกว่าร้อยละ ๘๔ จะเป็นเพศหญิง

นอกเหนือจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ทำให้ประชากรฮ่องกงมีสุขภาพดีและยืนยาวนั้น ในส่วนของปัจจัยภายใน อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ชาวฮ่องกงให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยทั่วไปผู้บริโภคในฮ่องกงจะเน้นบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเป็นหลัก ประกอบด้วยพืชผักและธัญพืช ในขณะเดียวกันก็พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์หรือลดปริมาณให้น้อยลง จึงทำให้ ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช (plant-based meat) ซึ่งเป็นนวัตกรรมอาหารแบบใหม่ที่มีกระบวนการผลิตหลักมาจากพืช ผัก ผลไม้ น้ำมัน ธัญพืช และถั่วหลากหลายชนิด และถูกนำมาดัดแปลงให้มีกลิ่น รสชาติ รูปลักษณ์ และเนื้อสัมผัสที่คล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์จริง ทำให้รับประทานง่ายและเหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพ ได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้บริโภคในฮ่องกง ซึ่งอาหารประเภทนี้นอกจากจะช่วยรักษารูปร่างให้สวยงามแล้ว ยังช่วยลดการก่อเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพที่ดีขึ้น

k1

ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชยังเป็นนวัตกรรมการผลิตอาหารที่จะมาทดแทนเนื้อสัตว์ในอนาคต และสามารถลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน

ความนิยมของผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช (plant-based meat) ในฮ่องกง

ผลการสำรวจในปี ๒๕๖๓ ของบริษัท Deliveroo แพลตฟอร์มที่ให้บริการสั่งอาหารแบบออนไลน์ของฮ่องกง แสดงให้เห็นว่า อัตราการสั่งซื้ออาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชของผู้บริโภคในฮ่องกงขยายตัวถึงร้อยละ ๑๖๐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบนแพลตฟอร์มฯ จำเป็นต้องขยายจำนวนเมนูอาหารแนวสุขภาพจากเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด ๓๐๙ รายการ เป็น ๑,๐๙๑ รายการ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชเป็นที่นิยมในฮ่องกงอย่างมากนอกเหนือจากประโยชน์ในเรื่องสุขภาพนั้น คือ การที่ผู้บริโภคต้องการรักษาชีวิตของสิ่งมีชีวิตร่วมโลกอื่น ๆ โดยผลการสำรวจของบริษัท Green Queen ผู้จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องใช้รักษ์โลกเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคเชิงสุขภาพของประชากรในฮ่องกงที่มีอายุ ๒๑ ถึง ๕๐ ปี จำนวน ๒๐๐ ราย พบว่า ร้อยละ ๔๔ หันมาบริโภคอาหารเชิงสุขภาพ เนื่องจากต้องการลดการฆ่าสัตว์ รักษาสิทธิของสัตว์(Animal Rights) และเหตุผลทางจริยธรรม (Ethics) ขณะที่ร้อยละ ๒๔ บริโภคอาหารเชิงสุขภาพเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก และร้อยละ ๒๓ บริโภคอาหารเชิงสุขภาพด้วยเหตุผลด้านโภชนาการและต้องการดูแลสุขภาพ

ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช (plant-based meat) สัญชาติไทยในตลาดฮ่องกง

ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชในฮ่องกงนั้นมีหลากหลายประเภทหลากหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของฮ่องกงในการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากพืช

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย เผยว่า มูลค่าการส่งออกเนื้อและผลิตภัณฑ์จากพืชมาฮ่องกงในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน ๒๕๖๔ อยู่ที่ ๒.๕๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๙๑.๓๒ ล้านบาท) โดยไทยนับเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์จากพืชมากที่สุดเป็นอันดับที่ ๒๕ ของโลก และเป็นอันดับ ๓ ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจในฮ่องกง ขอแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชของไทยบางแบรนด์ที่ปัจจุบันจัดจำหน่าย ในตลาดฮ่องกง เพื่อเป็นองค์ความรู้และแรงบันดาลใจสำหรับผู้ประกอบการไทยรายอื่นที่ประสงค์จะขยายตลาดของตนเอง ดังนี้

๑. OmniPork ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์โปรตีนจากพืช ผู้ก่อตั้งเป็นชาวฮ่องกงที่ร่วมมือกับทีมวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชาวเอเชียและแคนาดา จัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีชื่อเสียงมากในฮ่องกง รวมทั้งได้รับการจัดอันดับให้เป็นสินค้ายอดนิยม ๑ ใน ๓ ของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ตระกูลพืช

๒. Meat Zero นวัตกรรมเนื้อสัตว์จากพืชเชื้อสายไทย ภายใต้การผลิตของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จัดจำหน่ายตามซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำของฮ่องกง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าทั่วไป และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้ข้อมูลว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชนั้นค่อนข้างเป็นที่นิยมของตลาดฮ่องกง และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

๓. Let’s Plant Meat ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารแปรรูปจากพืชของบริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพของไทย ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ค่อนข้างมาแรง เพราะมีผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชที่มีความหลากหลายและราคาไม่สูงนัก จึงตอบโจทย์ผู้บริโภครายใหม่ที่เริ่มเข้าสู่วงการอาหารสุขภาพได้เป็นอย่างดี

โอกาสของผู้ประกอบการไทย

๑. ประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องทรัพยากรขั้นต้นจากการเกษตรที่อุมดมสมบูรณ์ที่สามารถนำไปผลิตและแปรรูปได้อย่างหลากหลาย มีนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตอาหารที่ค่อนข้างทันสมัย ผนวกกับต้นทุนของระบบโลจิสติกส์มายังฮ่องกงยังมีราคาไม่สูงมากนัก ทำให้เรามีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนหากเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เดียวกันที่มาจากประเทศอื่น ๆ

๒. ประเทศไทยมีความโดดเด่นในเรื่องอาหาร โดยเฉพาะความสามารถในการสร้างสรรค์รสชาติอาหารที่หลากหลายและครบรส อาหารจึงเป็นหนึ่งใน “ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power)” ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ อีกทั้งรัฐบาลไทยยังส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้รูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียวหรือ “BCG Economy Model”

ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงควรให้ความสำคัญต่อการนำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ผลการวิจัยและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาต่อยอดพัฒนาการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าและยกระดับให้แก่ผลิตภัณฑ์อาหารของไทยให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารแปรรูปจากพืชที่ถือเป็น อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของตลาดโลกขณะนี้และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

๓. ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการเป็นเมืองท่าปลอดภาษี และศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของ “ฮ่องกง” เพื่อเป็นตลาดส่งออก และเป็นประตูเชื่อมต่อไปสู่ตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนแผ่นดินใหญ่และตลาดโลก

ที่มาข้อมูล ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ เกาะฮ่องกง