รมช.ศึกษาฯคุณหญิงกัลยา ขับเคลื่อนอาชีวะเกษตร-ปฏิรูปวิทยาลัยเกษตรและประมง ชู “CODING for R-Chee wa”

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 คุณหญิงกัลยา มอบนโยบายขับเคลื่อนอาชีวะเกษตร ชู “CODING for R-Chee wa” การบริหารจัดการน้ำ เร่งปั้นอาชีวะป้อนตลาดแรงงานยุคดิจิทัล ทั้งนี้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเกษตร เทคโนโลยีและประมง ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมด้วยดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารจากหน่วยงานอาชีวศึกษา ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเกษตร เทคโนโลยีและประมง มาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นยกระดับการศึกษาอาชีวะด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเกษตร พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรให้เยาวชนและคนในชุมชน รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ และหลักสูตรชลกร ควบคู่ไปกับการนำ CODING มาเพื่อปฏิรูปวิทยาลัยเกษตรและประมง (CODING for R-Chee wa) ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปการศึกษาไปถึงตัวเด็กทุกคนโดยตรง ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตภายใต้ยุคดิจิทัล ที่มีความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และคลุมเครือ หรือที่เรียกว่า VUCA World

messageImage 1669824932783
ปฏิรูปวิทยาลัยเกษตรและประมง

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า นโยบายสำคัญเหล่านี้คือสิ่งที่ยังต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานและพลิกโฉมอาชีวศึกษาของไทยให้เข้มแข็งและเทียบเท่าสากล รวมไปถึงการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในส่วนกับภาครัฐเองและกับภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทรัพยากรคน และเทคโนโลยี ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล เรียนอาชีวะ ระหว่างเรียนต้องมีรายได้ จบมาแล้วต้องมีงานทำ

messageImage 1669824917558
ปฏิรูปวิทยาลัยเกษตรและประมง

“รัฐบาลและตัวดิฉันเองให้ความสำคัญกับอาชีวะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอาชีวะเกษตรและเทคโนโลยี เพราะนี่คืออนาคตของชาติ เป็นกลไกที่จะขับเคลื่อนแก้วิกฤตของประเทศได้ ถ้าเราทำให้ผู้ที่เรียนเกษตรและเทคโนโลยี ประมง สามารถมีงานทำ เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ประเทศเราจะเข้มแข็งแน่นอนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เขียนไว้ชัดเจนว่า เราไม่ได้ผลิตนักเรียนที่มีความรู้สอบได้ที่ 1 เท่านั้น แต่เราต้องการผลิตนักเรียนที่ไปทำงานได้ มีคนจ้าง นั่นคือหน้าที่ของเรา” ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

ทั้งนี้ดร.คุณหญิงกัลยา ได้กล่าวขอบคุณบุคลากรจากหน่วยงานอาชีวศึกษาที่มาร่วมงานทุกท่านซึ่งถือเป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่ลูกน้องหรือเจ้านาย ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำงานมากว่า 3 ปี เพื่อผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ เพราะรัฐบาลต้องการคนที่มีคุณภาพ มีความรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง นี่คือโจทย์ คือการบ้าน ที่เราต้องร่วมกันทำต่อไปเพื่อพาประเทศให้สามารถก้าวข้ามทุกวิกฤตได้

ดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ภาคการเกษตรของไทยเราต้องเตรียมตัวเพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายให้บ้านเมืองอยู่ในสถานะที่มีความพร้อมต่อการแข่งขันในระดับนานาชาติ เชื่อว่าจะมีความเข้มข้น และรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก นั่นคือพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีรากฐานมาจากภาคเกษตร ดังนั้นภาคเกษตรจึงเป็นหัวใจของโลกใบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้วางพื้นฐานสำคัญไว้ให้กับวิทยาลัยเกษตรและประมง ให้เป็นสถานศึกษาที่มีศักยภาพ ในการสร้างทรัพยากรเพื่อให้มีสถานะที่เข้มแข็งพอเพื่อแข่งขันในระดับโลก คือ 1.สร้างเกษตรกร 2.สร้างผู้ประกอบการภาคการเกษตร และ 3.สร้างนักวิชาการภาคการเกษตร

“วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยประมง ทั้ง 47 แห่ง มีหน้าที่หลักเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารคุณภาพ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก วันนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อปฏิรูป ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้เริ่มตั้งแต่ตอนแรก คือมีคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย หรือยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปการจัดการศึกษาภาคเกษตรและประมง เพื่อให้วิทยาลัยเกษตร เทคโนโลยี และประมง ให้เป็นสถานศึกษาที่มีศักยภาพ” ดร.ศุภชัย กล่าว