นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ชี้แจงโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร พร้อมเยี่ยมชมแปลงปลูกฟักทองของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ ณ บ้านค้อ ม.1 ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ว่า โครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรหรือบุคคลทั่วไป รวมถึงกลุ่มแรงงานในภาคการเกษตรและนอกภาคการเกษตร เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้มีเงินทุนในการสร้างงานสร้างอาชีพ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหรือการประกอบอาชีพนอกภาคการเกษตร ที่มีลักษณะเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ หรืออาชีพที่มีลักษณะเป็นการลงทุนค้าขาย เพื่อเลี้ยงชีพในครัวเรือน ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่มากนัก สร้างธุรกิจใหม่ และต้องไม่เป็นการประกอบอาชีพในลักษณะที่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือผิดกฎหมาย
รมช.ประภัตร กล่าวว่า โครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร เป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมปศุสัตว์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. )ได้ทำร่วมกัน เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นและกำชับมายังกระทรวงเกษตรฯ ให้เร่งแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ผ่านโครงการดังกล่าวฯ โดยจะสนับสนุนเงินกู้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับเกษตรกร เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการประกอบอาชีพด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร หรือประชาชนที่มีความสนใจประกอบอาชีพ เน้นอาชีพที่มีตลาดรองรับ มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต ให้สามารถสร้างรายได้ในระยะสั้น 4 – 6 เดือน ซึ่งจะมีผลตอบแทนเบื้องต้นเพียงพอต่อการดำรงชีพ และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไปได้ในอนาคต
ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้รับการอนุมัติวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ปล่อยกู้เป็นรายบุคคล หนี้เสียสามารถกู้ได้ สามารถใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยจะปล่อยกู้สูงสุดรายละ 100,000 บาท/1-3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 และปีที่ 4 – 5 ดอกเบี้ยตามปกติของธนาคาร
นอกจากนั้น ยังได้ชมแปลงปลูกฟักทองของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการสานฝันสร้างอาชีพฯ แปลงฟักทองนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในโครงการสานฝันฯ ซึ่งเป็นการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ลงทุนไม่มาก ได้ผลตอบแทนที่ดี และมีตลาดรองรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร ก่อนหน้านี้ รมช.เกษตรฯประภัตร ได้เคยเตือนเกษตรกรระวังการแอบอ้างหาผลประโยชน์จาก“โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเข้มข้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
โดยนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์จังหวัดในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 3 ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ได้มีกลุ่มบุคคล/บริษัทแห่งหนึ่ง ที่ดำเนินการขายผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร มีการเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมอบรมโดยแอบอ้างโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร พร้อมทั้งให้เกษตรกรลงทะเบียนและแจ้งเก็บเงินค่ามัดจำ จำนวน 6,500 บาท เพื่อแลกผลิตภัณฑ์ของบริษัทมูลค่า 40,000 บาทโดยจะเก็บเงินอีก 20,000 บาทเมื่อเกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ผ่านแล้ว ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
นายประภัตร ในฐานะที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ และโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร ได้ชี้แจงเรื่องนี้ด้วยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการของรัฐ ไม่ได้ทำข้อตกลงหรือความร่วมมือกับกลุ่มบุคคล/บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ให้เข้ามาช่วยเหลือ และเรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ต้องขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ช่วยกันเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำความผิดให้รีบแสดงตัวชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินโครงการสานฝันฯให้กับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ และแนะนำขั้นตอนกระบวนการทางกฏหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทันที