งานสถาปนา 80 ปี กรมปศุสัตว์ รัฐมนตรีเกษตรฯมาร่วมงาน 2 ท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด ส่วนรัฐมนตรีช่วยประภัตร โพธสุธน เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ เรียกว่า มาพร้อมหน้าพร้อมตากัน แตกต่างจากงานกรมการข้าวอย่างสิ้นเชิง
วันนี้…ไม่เหมือนวันนั้น
งานสถาปนากรมการข้าว รมว.เฉลิมชัยไปเปิดงาน แต่ไร้เงาของรมช.ประภัตรที่กำกับดูแล วันนั้นแวดวงข่าวเกษตรงงเป็นไก่ตาแตก รมช.ประภัตรทำไมไม่ไปร่วมงาน
วันนี้…พร้อมหน้าพร้อมตา ประธานเปิดงานอย่าง ดร.เฉลิมชัย มาถึงงานก่อน รมช.ประภัตรมาทีหลังแต่ทันมอบโค-กระบือ จำนวน 80 ตัว มาถึงปุ๊ป รมช.ประภัตรขอโทษขอโพยมาถึงช้าเพราะมาจากต่างจังหวัด เข้ากรุงเทพฯรถติด รมว.เฉลิมชัยก็แหย่กลับมีโคกระบือไปมอบให้เกษตรกรที่สุพรรณบุรีด้วยนะท่าน
“ขุนพิเรนทร์” ได้ยินแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ทันกันจริงๆ ระดับเลขาธิการพรรคการเมือง ลูกล่อลูกชนมาเต็มๆพอ ดร.เฉลิมชัยให้สัมภาษณ์สื่อเสร็จจะเดินไปเปิดงานอีกจุด รมช.ประภัตรหันมาคุยกับกลุ่มสื่อมองไปที่ผู้สื่อข่าวอาวุโสที่ยืนข้างๆ “ขุนพิเรนทร์” สัมภาษณ์กันไปเยอะๆ สัมภาษณ์กันยาวๆ พอตัดออกอากาศสั้นนิดเดียว นี่ก็เขียนสั้นๆบรรทัดเดียว ถึงตรงนี้ “ขุนพิเรนทร์” ถึงกับสะดุ้ง
โชคดีที่ท่านไม่รู้จัก “ขุนพิเรนทร์” เพราะเท่าที่รู้ท่านประภัตรไม่เล่นโซเชียล จะถึงหูท่านต้องมีคนไปเล่าให้ท่านฟัง อย่างล่าสุดก็เรื่องปลูกฟักทอง ประกันราคา 5 บาท ที่มีคนโทรมาโวย “ขุนพิเรนทร์” ตอน 5 ทุ่ม
วันนี้ ดร.เฉลิมชัย มาแบบใจเต็มร้อย ไม่อ่านโพย ไม่อ่านคำกล่าวเปิด ด้นสดตามสไตล์เฉลิมชัยคำไหนคำนั้น และที่ได้รับเสียงปรบมือจากคนกรมปศุสัตว์อย่างกึกก้อง
“ผมพร้อมจะอยู่เคียงข้างพี่น้องข้าราชการกรมปศุสัตว์ เพียงขอให้ทุกท่านทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่ถูกต้องผมจะเป็นคนลงโทษท่านด้วยตัวผมเอง”
คำพูดแบบนี้…”ขุนพิเรนทร์” ชี้ชัดคือคำพูดแบบลูกพี่ใหญ่ ใจถึงพึ่งได้ และใจแลกใจ
ว่ากันตามตรงบทบาทของ ดร.เฉลิมชัย กับกรมปศุสัตว์ แม้ไม่ได้รับผิดชอบโดยตรงแต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหา ขุนพิเรนทร์จะเห็นภาพรมว.เฉลิมชัยสั่งการผ่านสื่อต่างๆมากกว่ารมช.ประภัตรด้วยซ้ำ ทั้งกรณีภัยพิบัติและโรคระบาดสัตว์ต่างๆ
ภาพวันนี้ เรียงร้อยลีลา จับท่วงท่าและการพูดในหลายๆช่วง รมว.เฉลิมชัยรู้จักงานปศุสัตว์ในทุกมิติ ขุนพิเรนทร์ยืนถ่ายรูปและฟังรมว.เฉลิมชัย ซักถามนักวิชาการเรื่องวัคซีนลัมปีสกิน ที่กรมปศุสัตว์กำลังเข้าสู่ไลน์ผลิต เรื่องนี้กำลังเป็นที่สนใจ เพราะต้นทุนผลิตราคาโดสแค่ 10 บาท แต่ถ้านำเข้าตกโดสละ 50 บาทลีลาการซักถามเฉลิมชัยทำการบ้านมาดี
ยิ่งพอถึงการฟังข้าราชการกรมปศุสัตว์บรรยายถึงที่มาที่ไปประวัติของกรม โดยเฉพาะตึกอาคารอำนวยการ และพื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ได้ยินแว่วๆ “คงไม่มีใครอยากได้ของหลวงหละมั้ง” “ขุนพิเรนทร์” ได้แต่ยิ้มๆ เกือบไปแล้วหละคร๊าบท่าน หลายคนมองที่ดินตรงนี้ตาเป็นมันส์
วันนี้เห็นความแตกต่างชัดเจนของสองเลขาธิการพรรค อาจจะยืนอยู่ในคนละบทบาท แต่ท่วงท่า จังหวะเมื่อมองแบบพินิจพิเคราะห์ รมว.เฉลิมชัย คุมกรมปศุสัตว์แบบเสร็จเด็ดขาด
แบบนี้…รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง สายสีฟ้าแรงกว่าสายสีชมพูจากสุพรรณบุรีแน่ๆ
เสียดายเวลามีน้อย สิ่งที่ขุนพิเรนทร์อยากรู้และติดอยู่ในใจหลายอย่างที่อยากถามท่านรัฐมนตรีคือ หนึ่งเรื่องนำเข้าถั่วเหลือง นำเข้าอาหารสัตว์จะทำอย่างไร สองเรื่องของปุ๋ยเรื่องของปัจจัยการผลิตที่นับวันยิ่งสูงขึ้น กระทรวงเกษตรฯจะทำแบบไหน สามเรื่องของฤดูผลไม้ยังไหวกันอยู่หรือไม่
ก็มีโอกาสสัมภาษณ์อยู่ แต่ก็ต้องห้ามใจ วันนี้มางานสถาปนากรมปศุสัตว์ ไปถามเรื่องปุ๋ย เรื่องผลไม้เดี๋ยวเพื่อนฝูงจะเลิกคบ
