ชลประทานเตือน! เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน1-5 พ.ค.นี้

กรมชลประทานเตือนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ช่วงวันที่ 1-5 พฤษภาคม 2565 อย่างใกล้ชิด หลังกรมอุตุฯ เตือนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

    นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 29 เมษายน-3 พฤษภาคม 2565 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ 

F73E6E8E 6FCB 4759 86F1 B841374F35B2

ในขณะที่ประเทศไทยตอนบน อากาศร้อนถึงร้อนจัดทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งอิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 30 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2565 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง 

F02DDD19 B633 4822 9737 1AF0B7D8C268

     กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงระหว่างวันที่ 1 – 5 พฤษภาคม 2565 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานีศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดตราด และภาคใต้ บริเวณจังหวัดชุมพรสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และกระบี่

51F27A89 9D8D 47A8 8E0D E8257F2A6629

    กรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน  อย่างใกล้ชิด และกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง รวมทั้งพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ  

7AE058E2 6D69 43EA 874B 438016F3E30D

    พร้อมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ แนวคันกั้นน้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ ระบบสื่อสารสำรอง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันท่วงที