ช่วงนี้…ไม่ว่าเดินตลาดไหนก็จะเห็น “กล้วย” วางขายเต็มไปหมด ทั้งกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ หรือแม้แต่กล้วยหักมุก เรียกได้ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่กล้วยเต็มแผง ราคาก็ดูเหมือนจะถูกลงมาก บางที่ขายกันเครือละไม่กี่สิบบาทเท่านั้นเอง
ใครหลายคนอาจคิดว่า “ก็ดีนี่สิ ของกินถูก” แต่ถ้ามองลึกเข้าไปอีกนิด จะรู้เลยว่า…เบื้องหลัง “เรื่องกล้วย ๆ” นั้น ไม่กล้วยเลยสำหรับเกษตรกร
เพราะกว่ากล้วยแต่ละเครือจะได้วางขายในตลาด พวกเขาต้องใช้เวลาปลูกนานนับเดือน ต้องดูแลให้น้ำ ใส่ปุ๋ย รักษาโรค พอถึงเวลาตัดก็ต้องขนส่ง และเร่งขาย เพราะผลผลิตจะสุกพร้อมกันเกือบหมดในช่วงนี้
ผลที่ตามมาก็คือ “กล้วยล้นตลาด” ราคาตกต่ำจนบางครั้งไม่คุ้มค่าแรงที่ลงทุนลงแรงมา
กล้วย 1 ต้น ให้ผลผลิตเพียง ครั้งเดียวในชีวิต หลังจากนั้นต้องตัดต้นทิ้งเพื่อให้หน่อใหม่ขึ้นมา
นั่นหมายความว่าเกษตรกรต้อง “เริ่มใหม่” ทุกครั้งหลังการเก็บเกี่ยว และถ้าช่วงเวลาการออกผลผลิตของทุกสวนมาตรงกัน ราคาก็ย่อมร่วงอย่างที่เห็นในตอนนี้
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น กล้วยก็ยังเป็นพืชที่มีศักยภาพสูงมาก ถ้าเรารู้จัก “มองให้ลึกกว่าการขายเป็นผลสด”
เพราะกล้วยสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกหลายเท่าตัว เช่น
แปรรูปเป็นกล้วยตาก กล้วยอบน้ำผึ้ง กล้วยฉาบ
แปรเป็นแป้งใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่
หรือแม้แต่กล้วยคุณภาพรองก็ยังนำไปเป็นวัตถุดิบในอาหารสัตว์และปุ๋ยอินทรีย์ได้
ดังนั้น “เรื่องกล้วย ๆ” จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันคือเรื่องของการวางแผนผลิตให้ตรงตลาด เรื่องของการเพิ่มมูลค่าที่ไม่ควรมองข้าม และเรื่องของความอดทนที่เกษตรกรต้องเผชิญอยู่ทุกวัน
ครั้งต่อไปที่คุณเดินผ่านแผงกล้วยในตลาด ลองหยุดดูสักนิด…แล้วจะเข้าใจว่า เบื้องหลังผลไม้ธรรมดา ๆ นี้คือความพยายามของคนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่เคย “กล้วย” เลย 🍌✨
✅ ข้อเสนอแนะเล็ก ๆ สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกกล้วย
1.วางแผนการปลูกให้ไม่ออกผลพร้อมกันเลือกปลูกหลายรุ่นในช่วงเวลาที่ต่างกัน หรือปลูกสายพันธุ์ที่มีรอบเก็บเกี่ยวไม่พร้อมกัน จะช่วยกระจายผลผลิตและลดปัญหาราคาตกในช่วงฤดูเดียวกัน
2.รวมกลุ่มสร้างอำนาจต่อรอง
เกษตรกรรายย่อยถ้าขายแยกกัน ราคามักถูกกดลง แต่หากรวมกลุ่มกันขายตรงให้ห้าง โรงงาน หรือผู้แปรรูป จะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นและได้ราคาดีกว่า
3.เพิ่มมูลค่าก่อนขาย
ไม่ต้องรอให้ราคาตลาดเป็นตัวตัดสิน ลองแปรรูปเป็นสินค้าใหม่ ๆ หรือสร้างแบรนด์สินค้าเกษตร จะทำให้กล้วยธรรมดากลายเป็นสินค้าพรีเมียมได้ทันที
เพราะสุดท้ายแล้ว “เรื่องกล้วย ๆ” จะง่ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเห็น “โอกาส” ในสิ่งธรรมดาได้ลึกแค่ไหน





