เกษตรฯ ถก RSPO เร่งเพิ่มรายได้ชาวสวน-บริหารปาล์มน้ำมัน 

กระทรวงเกษตรฯ หารือ RSPO จับมือทุกภาคส่วน เดินหน้าเพิ่มรายได้ชาวสวนและยกระดับการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ (2 มิถุนายน2565) ภายหลังประชุมหารือแนวทางการส่งเสริม สนับสนุน และการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน ร่วมกับ Mr.Joseph JD D’Cruz (Chief Executive Officer) ผู้แทนองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) มีกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเรื่องของปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม อยู่ภายใต้แผนปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบปี พ.ศ. 2560 – 2579 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

061E204C 5FD1 4E71 877B FE8506C08314

โดยกำหนดเป้าหมายสำคัญไว้คือ ขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันควบคู่กับการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จากปัจจุบัน การเพิ่มประสิทธิภาพปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มให้ได้อัตราการสกัดน้ำมันร้อยละ 22-23 เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการในอนาคต ตลอดจนการรักษาระดับการส่งออกน้ำมันปาล์มให้อยู่ระดับ 3-7 แสนตันต่อปี 

การหารือความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และ RSPO ซึ่งมีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุนให้กลุ่มประเทศสมาชิกได้รับองค์ความรู้เทคโนโลยี และงบประมาณในการพัฒนาการปลูกปาล์มให้เกิดความอย่างยั่งยืนและได้รับมาตรฐาน RSPO เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะยกระดับมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนในประเทศไทย 

2876011F 1295 45F2 9883 A25D37145CD0

ด้าน RSPO พบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน RSPO แล้วน้อยมากส่งผลให้ไม่มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ ขณะที่ RSPO มีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุนให้กลุ่มประเทศสมาชิกมีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้เทคโนโลยี และงบประมาณ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยยึด 7 หลักการ สำหรับการรับรอง RSPO ของผู้ปลูก ประกอบด้วย

1) ประพฤติอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส 

2) ดำเนินการตามกฎหมายและเคารพสิทธิ 

3) ทำให้เกิดความเหมาะสมที่สุดต่อผลิตภาพ เกิดผลกระทบเชิงบวก มีประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ 

4) เคารพสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนและส่งมอบผลประโยชน์ 

5) สนับสนุนการรวมตัวของเกษตรกรรายย่อย 

6) เคารพสิทธิและเงื่อนไขของคนงาน 

7) การปกป้อง อนุรักษ์และปรับปรุงระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

สำหรับองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่รวมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนผ่านมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการใช้น้ำมัน 

โดยสมาชิกขององค์กรเจรจาระหว่างประเทศเพื่อปาล์มน้ำมันยั่งยืน หรือ RSPO มาจากหลายภาคส่วน ทั้งบริษัทผู้ปลูก พ่อค้าและผู้แปรรูปสินค้า สถาบันการเงิน และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม จากประเทศผู้ผลิตหรือใช้น้ำมันปาล์ม ทั้งนี้ RSPO บริหารจัดการโดยคณะกรรมการบริหาร(Board of Governors) ประกอบด้วยตัวแทนสมาชิก 16 คน ที่แต่งตั้งจากการประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์กรทุกสองปี ส่วนคณะกรรมการบริหาร (BoG) ได้รับการสนับสนุนจากที่ปรึกษาและคณะกรรมการประจำสี่ฝ่ายหลักขององค์กร 

07E2006C 9CB1 44FF BF1E E67A28AFDFF0

ท้ายนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยจะนำร่องในพื้นที่ปลูกปาล์ม จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่แรกในเร็วๆ นี้ด้วย