ขุนพิเรนทร์

เมื่อขุนพิเรนทร์กลับบ้านเกิด ความบันเทิงบังเกิดขึ้น ตามข่าวดูน้ำท่วมในพื้นที่ เจอหนุ่มสาวเสื้อกั๊กกำลังคุยกับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม เสียงพูดคุยเบาๆ ถ้ารัฐเยียวยาช้า ปีนี้แย่แน่ ด้านทีมเสื้อกั๊กตอบว่า “เราไม่เคยหลับสนิท  พี่น้องเกษตรกรยังรอความช่วยเหลือ จะพยายามทำเอกสารเข้าเสนอคณะกรรมการให้เร็วที่สุด ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังปูพรมลงพื้นที่”

พฤศจิกายน 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี พูดว่า อีก 5 ปีชาวนาจะรวยขึ้น เรามาดูกันว่าสถานการณ์วันนั้นข้าว/ปุ๋ยราคาเป็นอย่างไร?

งงเหมือนไอ้ขุนไหมครับ น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง สุดลูกหูลูกตา ท่วมแบบนี้มาเป็นเดือน ข้าวไม่รอดแน่นอน จังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว

เมื่อวานนี้….นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนใหม่ ออกงานครั้งแรก ในนามปลัดกระทรวงแบบมีอำนาจเต็มที่จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นแม่งานหลัก นำทัพออกพบปะเกษตรกร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เกษตรอินทรีย์ 2 ล้านไร่ เกษตร GAP 2.5 ล้านไร่ เจาะกลางใจ โดย “ขุนพิเรนทร์”วิพากษ์ แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่พึ่งประกาศออกมาแบบสดๆร้อน กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในระหว่างปี 2566-2570

นี่คือเบื้องหลังที่เกิดขึ้นจากการโยกย้าย ผอ.ชลธี นุ่มหนู มือปราบทุเรียนอ่อน ขวัญใจเกษตรกรชาวสวนภาคตะวันออก “ขุนพิเรนทร์” นั่งฟังแหล่งข่าวอยู่เกือบสองชั่วโมง ซึ่งร่ายยาวให้เห็นการเมืองภาคตะวันออก ลากยาวถึงการเมืองระดับประเทศ

อยู่ๆเพลงนี้ก็ดังที่กระทรวงเกษตรฯเวลานี้…พร้อมๆกับเสียงลือสามกรมในการกำกับดูแลพรรคภูมิใจไทยอาจจะเปลี่ยนสลับเป็นสามก้อนเส้า

“ผมไม่ได้คิดแค่ ให้รัฐสนับสนุนชาวนาทุกปี ปีนี้ก็ 1,000 บาทต่อไร่ ปีหน้าก็ขอไปเรื่อยๆ แบบนี้ชาวนาจะมีความภาคภูมิใจได้อย่างไร ถึงเวลาแบมือขอ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือความยั่งยืน”

เก่าไปใหม่มาสำรวจตรวจสอบกำลังหลักระดับผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้แสงบ้านดาวล้อมเดือน วันนี้กระทรวงเกษตรฯขับเคลื่อนอย่างไร ❓